การ์ตูน ซีรีย์ เรื่อง อิฐ ตอนที่ 1 "คอนกรีตบล๊อค หรือ อิฐบล๊อค"
By vLIVING PRO01 มีนาคม 2560 14:51:06
vLIVING PRO
สนใจติดต่อโฆษณาเว็บไซต์กับ vLIVING PRO โทร.02-101-9493 #16, 082-359-3382
บทความอื่นที่น่าสนใจ
  • เมื่อลมร้อนพัดผ่านมาเมื่อไร บ้านก็จะร้อนจนกลายเป็นเตาอบ เพราะแสงแดดแผดเผา เนื่องจากความร้อนที่เข้ามาภายในบ้านส่วนใหญ่มักจะมาจากหลังคา ดังนั้นหากต้องการจะแก้ปัญหาบ้านร้อนให้ได้ผลดี จึงควรเริ่มที่หลังคาก่อน เพื่อช่วยลดและป้องกันความร้อนจากหลังคา เพิ่มความเย็นให้กับบ้านของเรา มาฝากทุกคน ดังนี้ 

     

     

    1. ใช้หลังคาสีอ่อน เพื่อช่วยสะท้อนรังสีความร้อน    

     

     

     

     

     

     

    2. ชายคา ควรมีระยะยื่นออกมาอย่างน้อย 1 เมตร และฝ้าชายคา ควรมีช่องระบายความร้อน รวมทั้งช่องตรงฝ้าชายคายิ่งเยอะ

    ก็จะยิ่งช่วยระบายความร้อนได้ดีขึ้นด้วย

     

     


     

     

     

    3. ช่องว่างใต้หลังคา ควรมีความสูงมากพอ เพื่อช่วยเพิ่มพื้นที่ในการกักเก็บความร้อนบริเวณใต้หลังคา ทำให้ความร้อนแผ่ลงมายังตัวบ้านได้น้อยลง

     

     

     

     

     

     

     

      4. การติดตั้งแผ่นฟอยล์สะท้อนความร้อน สามารถปูได้ทั้งบนแปรหลังคา หรือปูใต้แปหลังคาก็ได้  

     

     

     

     

     

     5. การติดตั้งฉนวนกันความร้อนบนฝ้าเพดาน ฉนวนมีความหนาตั้งแต่ 2 นิ้ว – 6 นิ้ว แต่ฉนวนกันความร้อนยิ่งมีความหนามากก็จะยิ่งมีน้ำหนักมากขึ้นเช่นกัน จึงต้องทำโครงฝ้าให้แข็งแรงมากขึ้นด้วย     

             

     

     

     

     

     

    ไม่ว่าจะเลือกใช้วิธีใดก้ตาม สิ่งสำคัญคือ ควรคำนึงถึงความเหมาะสมสำหรับบ้านของเรา ไม่ว่าจะเป็นบ้านเก่า หรือบ้านสร้างใหม่และควรขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้วย

     

     

    ขอบคุณรูปภาพจาก Pinterest                  

  • การเลี้ยงสุนัข เป็นปัญหายอดฮิต ที่ทำให้เกิดปัญหา การทะเลาะวิวาทกับเพื่อนบ้านได้ จึงควรดูแลใส่ใจน้องหมาของเรา ไม่ทำให้เพื่อนบ้านเกิดความรำคาญใจ จึงควรคำนึงถึงเรื่องต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น ดังนี้

     

    1. เลือกเลี้ยงสุนัขให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมที่เราอยู่อาศัย

     

     ไม่ควรเลือกนำมาเลี้ยงเพียงเพราะความชอบส่วนตัว หรือถูกใจเพียงแค่หน้าตาน่ารักอย่างเดียวเท่านั้น   ควรศึกษาข้อมูลของสุนัขแต่ละสายพันธุ์ให้ดีก่อนนำมาเลี้ยง เช่น บุคลิก ลักษณะนิสัย หรือพฤติกรรม ของสุนัขแต่ละสายพันธุ์ เป็นต้น

     

     

    1. จัดพื้นที่ให้เป็นสัดส่วน

     

     

     

     แบ่งเขตให้สุนัขรู้จักพื้นที่ของตัวเอง  เพื่อเป็นการสร้างวินัยให้กับสุนัข มีพื้นที่กว้างพอดีกับขนาดตัวของสุนัขแต่ละสายพันธุ์  อากาศถ่ายเทได้สะดวก และร่มรื่น

     

     

    1. เก็บอึ ฉี่ ของสุนัขไม่ให้รบกวนเพื่อนบ้าน

    เจ้าของสุนัขควรมีความรับผิดชอบ ในการขับถ่ายของสุนัข ควรฝึกให้สุนัขขับถ่ายในที่ที่เตรียมไว้ หมั่นทำความสะอาดกรง และแผ่นรองอย่างสม่ำเสมอ หรือพาสุนัขออกไปขับถ่ายเวลาเดิมทุกๆวัน เพื่อให้สุนัขมีระบบการขับถ่ายที่แน่นอน ตรงเวลา และควรนำถุง หรือกระดาษไปด้วย  เพื่อเก็บกองอึของสุนัขให้เรียบร้อย ซึ่งเป็นความรับผิดชอบของเจ้าของสุนัขที่มีต่อสังคม เพื่อเป็นการรักษาชุมชนให้น่าอยู่ ไม่ทำให้ผู้อื่นเกิดความเดือดร้อน

     

    1. ใส่สายจูงให้สุนัขทุกครั้ง เมื่อออกจากบ้าน

     

     

    ทำให้สามารถควบคุมสุนัขได้ง่าย ช่วยให้สุนัขปลอดภัยจากอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น ช่วยป้องกันไม่ให้สุนัขวิ่งเข้าบ้านคนอื่น ช่วยให้คนรอบข้างปลอดภัยจากสุนัขของเรา หากสุนัขของเรามีความดุร้าย และยังช่วยป้องกันปัญหาสุนัขกัดกันได้อีกด้วย

     

     

    1. ฝึกสุนัข ไม่ให้ปากเปราะ

     

    ควรเริ่มฝึกตั้งแต่เล็กๆ และค่อยๆฝึกอย่างใจเย็น โดยการที่ เมื่อเห็นว่าสุนัขเห่าสิ่งต่างๆรอบตัว ผู้เลี้ยงควรนิ่งเฉยไว้ก่อน แล้วจึงค่อยเบี่ยงความสนใจ โดยการเคาะโต๊ะ หรือเก้าอี้ เพื่อทำให้สุนัขตกใจ เมื่อสุนัขหยุดเห่าผู้เลี้ยงควรพูดชมว่า “ดีมาก” แล้วลูบที่ต้นคอของสุนัข หรือถ้าสุนัขเห่าเพื่อขอของกิน ผู้เลี้ยงห้ามให้เด็ดขาด  รอให้สุนัขหยุดเห่าแล้วจึงค่อยให้ของกิน เพื่อฝึกให้สุนัขรู้ว่า ต้องไม่เห่าจึงจะได้ของกิน

     

    1. รับฟังความคิดเห็นของเพื่อนบ้าน

     

     

    พูดคุยกับเพื่อนบ้าน สอบถามถึงปัญหา และผลกระทบที่ได้รับจากสุนัขของเรา เพื่อหาทางแก้ไข และป้องกันปัญหาต่างๆที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต

     

    1. สุนัขชอบทำลายข้าวของ

     

     

    ปัญหานี้ อาจเกิดขึ้นเพราะ สุนัขเกิดความเครียด เหงา กลัวว่าจะโดนทิ้ง จึงแสดงพฤติกรรมที่ไม่ดีออกมา เพื่อเรียกร้องความสนใจ ผู้เลี้ยงควรฝึกสุนัขตั้งแต่เล็กๆ ให้คุ้นกับการอยู่ตัวเดียว แต่ถ้าสุนัขชอบทำลายข้าวของเป็นประจำ ทั้งๆที่ไม่ได้อยู่ตัวเดียว ผู้เลี้ยงต้องทำโทษด้วยการ นำกระดาษหนังสือพิมพ์มาม้วน แล้วตีสุนัขเบาๆ ให้เกิดเสียง เพื่อให้สุนัขรู้ว่า ถ้าทำแบบนี้อีกจะถูกทำโทษ

     

    1. มีเวลาใส่ใจดูแลสุนัข

     

     

    ควรสัมผัสตัว ลูบหัว พูดคุยกับสุนัข และควรพูดชมว่า “ดีมาก”  “เก่งมาก” เมื่อสุนัขทำตัวดี น่ารัก รวมถึง ควรมีเวลาว่างเพื่อทำกิจกรรมร่วมกับสุนัขด้วย เช่น พาไปออกกำลังกาย เดินเล่นนอกบ้าน เป็นต้น ช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการพาสุนัขไปเดินเล่น คือ

     

    ตอนเช้า ใช้เวลาเดินเล่น ประมาณ 20 – 30 นาที เพื่อช่วยให้สุนัขปลดปล่อยพลังงาน คลายความเครียด ลดนิสัยก้าวร้าว และช่วยให้สุขภาพแข็งแรง

     

    ตอนเย็น เวลาที่เหมาะสมคือ ตั้งแต่เวลา 17.30 น. เป็นต้นไป ใช้เวลาเดินเล่นประมาณ 40 นาที ถึง 1 ชั่วโมง เพื่อช่วยให้สุนัขคลายความเครียด หลังจากที่ต้องอยู่บ้านมาทั้งวัน

     

    วันเสาร์ – อาทิตย์ เป็นวันที่เหมาะกับการฝึกวินัยให้กับสุนัขเพื่อให้ทำตามคำสั่ง และทำกิจกรรมต่างๆร่วมกัน เช่น การพาสุนัขไปตรวจสุขภาพ ไปเที่ยว หรือว่ายน้ำ เป็นต้น เพื่อสร้างความใกล้ชิดสนิทสนม ระหว่างเจ้าของกับสุนัข

     

     

    กฎหมายการเลี้ยงหรือปล่อยสุนัข พ.ศ. 2548 ข้อ 26 และพระราชบัญญัติการสาธารณะสุข พ.ศ. 2535 มาตรา 73 วรรค 2 มีดังนี้

    1. ผู้เลี้ยงต้องดูแลสุนัขไม่ให้ก่อเรื่องเดือดร้อน เช่น เห่าเสียงดังนานๆ เป็นต้น
    2. ต้องดูแลพื้นที่ที่เลี้ยงสุนัขให้สะอาดอยู่เสมอ
    3. กำจัดสิ่งปฏิกูลของสุนัขอย่างสม่ำเสมอ
    4. เมื่อสัตว์เลี้ยงตาย ผู้เลี้ยงต้องจัดการให้ถูกสุขลักษณะ เพื่อป้องกันเชื้อโรคและกลิ่นเหม็น ซึ่งอาจสร้างความเดือดร้อนให้กับเพื่อนบ้านได้
    5. หากสุนัขมีความดุร้าย จะต้องผูกสายลากจูง ที่มีความยาวไม่เกิน 50 เซนติเมตร และต้องใส่ที่ครอบปากตลอดเวลาที่ออกนอกบ้าน หากฝ่าฝืนต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท หากผู้ใดพบเห็นผู้ที่ทำผิดกฎหมาย และมีหลักฐาน เช่น รูปถ่าย ว่าสุนัขกำลังทำร้ายคน จะมีโทษปรับเป็น 2 เท่า คือ ปรับไม่เกิน 5,000 บาท รวมถึงชดใช้ค่าเสียหาย ค่ารักษาพยาบาล และค่าทำขวัญ

     

    ก่อนตัดสินใจซื้อสุนัขมาเลี้ยง ควรศึกษาให้ดี รวมทั้งศึกษาตัวเราเองด้วยนะคะว่าพร้อมที่จะดูแลน้องหมาหรือไม่ เพื่อไม่ให้เดือดร้อนผู้อื่น และกลายเป็นปัญหาของสังคมในอนาคตด้วยค่ะ

     

    ขอบคุณรูปภาพจาก Pinterest

  • ระดับน้ำ!!  หลายคนได้ยินชื่อนี้อาจจะสงสัยว่า....

    ระดับน้ำคืออะไรกัน วันนี้เรามีคำตอบมาฝากค่ะ

    ระดับน้ำ มีความสำคัญมาก เนื่องจากเป็นอุปกรณ์ที่ใช้เช็คดิ่ง เช็คความราบ ของพื้นผิว (แนวตั้งและแนวนอน)

     

     

     

     

     

     

     

     

     

  • " กระดาษทราย "  เป็นสิ่งที่ช่างคุ้นเคยกันดี

    สำหรับช่าง ผมมีข้อมูลมาฝากเพื่อนๆกันครับ