การ์ตูนซีรีย์ เปรียบเทียบ กระเบื้องลอนคู่ กับ แผ่นเมทัลชีท ตอนที่ 1 "กระเบื้องลอนคู่"
By vLIVING PRO02 มีนาคม 2560 09:27:44
vLIVING PRO
สนใจติดต่อโฆษณาเว็บไซต์กับ vLIVING PRO โทร.02-101-9493 #16, 082-359-3382
บทความอื่นที่น่าสนใจ
  • ตามหลักฮวงจุ้ยนั้น โครงสร้างของบ้าน เช่น เสา คาน หรือเพดาน เป็นต้น ถือว่ามีความสำคัญมาก บ้านควรมีรูปทรงที่ดี และควรเลือกสีของหลังคาให้เข้ากับสมาชิกในบ้าน รวมถึงการเลือกรูปทรงของหลังคาที่เหมาะสมด้วย ดังนี้

     

    1. รูปทรงของบ้านที่ดี ควรมีลักษณะเป็นตอนลึก หรือรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ซึ่งถือว่าเป็นฮวงจุ้ยที่ดี

     

     

     

        2.รูปทรงของหลังคา มีดังนี้

     

     

    • หลังคาทรงจั่ว เช่น บ้านทรงไทย หลังคาจะเทออกทั้ง 2 ข้าง ซึ่งหลังคาที่เทออกด้านข้างทั้ง 2 ด้านนั้น จะทำให้กระแสชี่ไหลออกจากด้านข้างหมด

     

     

     

    • หลังคาทรงปั้นหยา ช่วยป้องกันแดด และฝนได้ทุกทาง ทำให้ตัวบ้านไม่ปะทะกับลม แดด และฝนมากเกินไป ด้านเฉียงทั้ง 4 ด้านของหลังคา ทางฮวงจุ้ยถือว่าดีมาก เพราะกระแสชี่สามารถไหลได้รอบบ้าน ซึ่งหมายถึงทรัพย์สิน เงินทองไหลเข้าบ้าน

     

     

     

    • หลังคาแบบโค้ง หรือตัดสี่เหลี่ยม ส่วนใหญ่จะเป็นตึกแถว หรือบ้านที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ แต่ไม่สามารถเก็บพลังชี่ได้ และเก็บทรัพย์ไม่อยู่

     

     

     

    • หลังคาแบบ 2 จั่ว ไม่เป็นที่นิยม เพราะกระแสชี่จะไหลชนกันเอง ระหว่างหลังคาทรงจั่วทั้ง 2 หลัง ส่งผลทำให้คนในบ้านแตกแยก ไม่ลงรอยกัน ถ้าเป็นเรือนหอ อาจส่งผลต่อชีวิตคู่ได้ แต่ในกรณีที่จำเป็นต้องทำหลังคาทรง 2 จั่ว ควรทำให้หลังคาไม่เท่ากัน เพื่อกำหนดฐานะของเจ้าของบ้านให้ชัดเจน และเจ้าของบ้านควรอยู่บ้านหลังที่มีหลังคาจั่วใหญ่ที่สุด ส่วนหลังคาจั่วเล็ก เป็นตำแหน่งของบริวาร

     

     

    ควรใช้รูปทรงของหลังคาให้เข้ากับธาตุของบ้าน และเจ้าของบ้านด้วย โดยปรับให้มีความสมดุล และเหมาะสมกัน ดังนี้

     

    สีประจำตามปีนักษัตร

     

     

     

    สีของหลังคาที่เหมาะสมกับวันเกิด มีดังนี้

    • วันอาทิตย์ เหมาะกับหลังคาสีแดงเลือดหมู และสีทองเข้ม ช่วยเสริมอำนาจ บารมี ธุรกิจการค้าขายดี ร่ำรวย
    • วันจันทร์ เหมาะกับหลังคาสีฟ้าอ่อน หรือสีฟ้าน้ำทะเล ช่วยเสริมเรื่องความรัก มีเสน่ห์กับคนรอบข้าง และมีคนคอยช่วยเหลือ
    • วันอังคาร เหมาะกับหลังคาสีฟ้าอ่อน และสีเทา ช่วยให้คนในบ้านมีชีวิตที่สงบสุข ร่มเย็น ไม่ทะเลาะกัน
    • วันพุธ เหมาะกับหลังคาสีเขียวอ่อน สีดำ และสีเทา ช่วยให้คนในบ้านมีความสงบสุข มีชีวิตชีวา และมีความคิดสร้างสรรค์
    • วันพฤหัสบดี เหมาะกับหลังคาสีเขียว สีน้ำตาล สีเทา และสีโอ๊ค ช่วยให้คนในบ้านมีความสุข สบาย ร่มเย็น และปลอดภัย
    • วันศุกร์ เหมาะกับหลังคาสีเขียว สีส้ม และสีควันบุหรี่ ช่วยให้ครอบครัวอบอุ่น สามัคคี ปลอดภัย และเข้มแข็ง
    • วันเสาร์ ใช้ได้กับทุกสี แต่ควรเป็นสีโทนอ่อน ช่วยให้มีชีวิตที่เป็นมงคล มีความสุข เงินทองไหลเข้าบ้าน

     

     

     

    1. เสา ทุกต้นที่อยู่ในบ้าน ควรมีลักษณะกลม เพราะฮวงจุ้ยจะดีกว่าเสาเหลี่ยม ช่วยให้พลังชีวิตไหลผ่านได้ง่าย

     

     

     

     

    4. คาน ที่อยู่ภายในบ้านจะมีผลต่อผู้ที่อยู่อาศัยภายในบ้าน ในสมัยโบราณมีความเชื่อว่า

    • คานที่มีขนาดใหญ่มากๆ จะทำให้รุสึกกดดัน
    • คานที่อยู่เหนือตียงนอน จะทำให้เจ้าของห้องรู้สึกปวดศีรษะ
    • คานที่อยู่เหนือช่องท้องของผู้นอน จะทำให้รู้สึกปวดท้อง
    • คานที่อยู่เหนือข้อเท้า ทำให้มีปัญหาเรื่องการเคลื่อนไหว
    • คานที่อยู่เหนือเตาไฟ หรือโต๊ะกินข้าว จะถูกขัดลาภ หรือสูญเสียเงิน

     

     

     

     

    1. เพดาน ควรมีความสูงที่ได้สัดส่วนที่พอเหมาะ ห้องที่เพดานต่ำเกินไป จะทำให้อึดอัด มีผลต่ออารมณ์ และความคิด

     

     การสร้างบ้านที่ตรงตามหลักฮวงจุ้ยนั้น เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้สมาชิกทุกคนครอบครัวได้รับแต่สิ่งดีๆ มีความสุข อบอุ่น ร่ำรวย ร่มเย็น และปลอดภัย ค่ะ

     

    ขอบคุณภาพประกอบจาก Pinterest

  • บ้านคือสิ่งที่ต้องดูแลรักษา เพราะเป็นสิ่งที่เราใช้ชีวิตมากที่สุด มาเช็คกันดีกว่า จุดไหนที่ควรระวังหรือดูแลเพื่อให้ไม่เกิดความเสี่ยงหรือต้องเสียเงินซ่อมบำรุงบานปลาย

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

  • เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านที่เราใช้กันทุกวันนี้ บอกเลยว่ามีหลายชนิด ที่กินไฟ แบบไม่น่าเชื่อ มาดูกันว่า จะมีอะไรบ้าง และเรามีวิธีคำนวณมาฝากกัน

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

  • ปัญหารอยร้าวที่เกิดขึ้น ของบ้าน ที่พบเจอกันบ่อยๆ ที่เกิดขึ้นจริงๆแล้วเป็นอันตรายหรือไม่ วันนี้เรามีประเภทของรอยร้าวแต่ละประเภทมาฝากกัน

    1.รอยร้าวเสาเอ็น- ทับหลัง

    ส่วนมากจะเป็นที่หน้าต่างไม้ เพราะเป็นวัสดุที่มีความยืดหดตัวเมื่ออุณหภูมิและความชื้นมีความเปลี่ยนแปลง

     ทำให้ปูนที่ฉาบไว้เกิดรอยร้าวได้ ไม่เป็นอันตรายมาก

    2.ผนังแตกลายงา

    เกิดจากการผสมปูนฉาบที่ไม่ได้คุณภาพ หรือผนังที่ก่อไว้เกิดการหดตัวจากอุณหภูมิจึงทำให้ปูนฉาบเกิดเป็นรอยไม่อันตรายไม่มีผลต่อโครงสร้าง

     

    3.รอยร้าวที่รอยต่อระหว่างผนังกับเสาและคาน

    เกิดจากเวลาก่อสร้างไม่ได้ทำการเสียบเหล็กหนวดกุ้ง เพื่อทำการยึดเกาะกับเสา หรืออาจจะเสียบเหล็กหนวดกุ้งไม่แน่นพอ ทำให้เกิดรอยร้าว

    4.รอยแตกลายงาที่พื้น

    เกิดจากพื้นที่ไม่ได้ปูวัสดุปิดผิวเช่น คอนกรีตขัดมัน เพราะคอนกรีตมีความหนามากเกินไป ทำให้เกิดรอยแตกลายงาได้ แต่ไม่ทำให้เกิดอันตราย ควรปูวัสดุปิดผิวทับไปเช่นกระเบื้องยาง

    5.รอยร้าวแนวดิ่งบนผนัง

    เป็นรอยร้าวที่พื้นแอ่นตัวและคานรับน้ำหนักมากเกินไป หากเกิดรอยร้าวประเภทนี้ ให้เช็คดูว่ามีของที่มีน้ำหนักมากอยู่ตรงนั้นไหม หากมีให้ทำการย้ายไปทันทีเพื่อช่วยลดน้ำหนักตรงนั้น

     

    6.รอยร้าวที่มีสนิมเหล็กเสริมใต้พื้น

    เกิดจากพื้นดาดฟ้ามีน้ำขังจนทำให้ซึมเข้ามาที่เหล็กภายในพื้นคอนกรีต ทำให้เกิดสนิม  ขยายตัวทำให้คอนกรีตที่หุ้มเหล็ก ร่วงออกมาทำให้พื้นไม่สามารถรับน้ำหนักมากๆได้

    7.รอยร้าวทแยงมุมบนผนัง

    สาเหตุมาจากฐานรากมีการทรุดตัว โครงสร้างบ้านไม่แข็งแรง ควรรีบให้วิศวกรมาดูโดยด่วนเพราะอาจทำให้เกิดอันตรายได้

     

    8.รอยร้าวใต้ท้องพื้นรูปกากบาทบริเวณกลางพื้น

    สาเหตุมาจากพื้นด้านบนได้รับน้ำหนักมากจนเกินไปที่จะรับน้ำหนักได้ ควรรีบแก้ไขก่อนพื้นจะถล่มลงมา

    9.รอยร้าวตามขอบและคานพื้น

     

  • บันได ถือเป็นส่วนประกอบหนึ่งที่สำคัญของบ้าน ซึ่งบ้านเกือบทุกหลังจำเป็นต้องมีบันได โดยสิ่งที่ต้องคำนึงถึงคือขนาดของลูกตั้ง ลูกนอนที่เหมาะสม เพื่อให้สมาชิกทุกคนภายในบ้านใช้บันไดได้อย่างสบายเท้า ดังนั้นบันไดที่ดี จึงควรมีลักษณะ ดังนี้

     

     

     

     

    บันได ถือเป็นส่วนประกอบหนึ่งที่สำคัญของบ้าน ซึ่งบ้านเกือบทุกหลังจำเป็นต้องมีบันได โดยสิ่งที่ต้องคำนึงถึงคือขนาดของลูกตั้ง ลูกนอนที่เหมาะสม เพื่อให้สมาชิกทุกคนภายในบ้านใช้บันไดได้อย่างสบายเท้า ดังนั้นบันไดที่ดี จึงควรมีลักษณะ ดังนี้

     

    1. ลักษณะและขนาดของลูกตั้ง และลูกนอนที่ดี

    ลูกตั้ง คือ ระยะตั้งของบันไดแต่ละขั้น

    ลูกนอน คือ ระยะราบที่ใช้เดินเหยียบบันไดแต่ละขั้น

    สูตรการคำนวณลูกตั้งลูกนอนบันได คือ ลูกตั้ง + ลูกนอน = 45

    ตัวอย่างการคำนวณ ลูกตั้งลูกนอน  ลูกตั้ง + ลูกนอน = ผลรวม   เช่น     18+ 27 = 45  เป็นต้น

     

     

    ตัวอย่างบันไดที่เดินสบาย

    ดังนั้น บันไดที่เดินแล้วสบายเท้า ลูกตั้ง จะอยู่ที่ 17 – 18 เซนติเมตร ส่วนลูกนอน จะอยู่ที่ 27 – 28 เซนติเมตร 

    ตามกฎหมายระบุไว้ว่า ลูกตั้งต้องไม่เกิน 20 เซนติเมตร ส่วนลูกนอนต้องกว้างไม่น้อยกว่า 22 เซนติเมตร

    (เพราะถ้าความกว้างของลูกนอนน้อยเกินไป จะทำให้เหยียบได้ไม่ถนัดเท้า)

     

    1. ความสูงของช่วงบันได

     

    ในกรณีที่ความสูงระหว่างชั้นไม่เกิน 3 เมตร สามารถใช้บันได ช่วงเดียวได้เลย

    แต่ถ้าความสูงระหว่างชั้นเกิน 3 เมตร ควรแบ่งช่วงบันได

     

    1. ชานพัก

      

    มีไว้เพื่อแบ่งช่วงบันได และความยาวของชานพัก ต้องไม่น้อยกว่าความกว้างของบันได

    รวมถึง ระยะดิ่งจากขั้นบันได หรือชานพัก ถึงเพดานเหนือหัว ต้องสูงไม่น้อยกว่า 1.90 เมตร

     

     

    บันไดบ้านจะสวยมากน้อยแค่ไหนไม่สำคัญ สิ่งสำคัญคือ การมีบันไดที่ได้สัดส่วนตามมาตรฐาน ใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย เหมาะสม และปลอดภัยกับทุกคนในครอบครัวเป็นอย่างดี 

     

    ขอคุณภาพประกอบจาก Pinterest