8 วัสดุยอดฮิตในการทำท็อปเคาน์เตอร์ครัว
By vLIVING PRO21 กุมภาพันธ์ 2561 10:56:56

ท๊อปเคาว์เตอร์ครัว ถือเป็นหน้าตาหลักอย่างหนึ่งของห้องครัวเลยนะคะ ที่จะช่วยเพิ่มความสวยงาม และดึงดูดความสนใจของแขกผู้มาเยือนให้หันมามองครัวที่สวยงามของเราได้ วัสดุยอดฮิตที่ใช้ทำท๊อปเคาว์เตอร์ครัว มีอยู่ 8 ชนิดด้วยกัน จะมีอะไรบ้าง? ไปชมพร้อมๆ กันเลยค่ะ

 

 

 

 

 

 

 

ชนิดของท๊อปครัว และวัสดุมีผลต่อราคาค่าก่อสร้างค่อนข้างมากค่ะ เพื่อนๆ ควรคำนวณค่าใช้จ่ายโดยรวม และศึกษาวัสดุที่ต้องการใช้อย่างละเอียด ก่อนตัดสินใจลงมือทำนะคะ

vLIVING PRO
สนใจติดต่อโฆษณาเว็บไซต์กับ vLIVING PRO โทร.02-101-9493 #16, 082-359-3382
บทความอื่นที่น่าสนใจ
  •  

     

     

  • เข้าลิ้น.....เคยได้ยินไหมครับคำนี้ ประโยชน์ของการเข้าลิ้นมีเยอะเหลือเกินวันนี้ผมมีข้อมูลมาฝากครับ

     

     

     

     

     

     

     

     

     

  •                  เมื่อเข้าสู่ฤดูร้อน อากาศแสนจะร้อนอบอ้าว และอุณหภูมิโลกสูงขึ้นทุกปี การติดตั้งเครื่องปรับอากาศภายในบ้าน จึงเป็นอีกวิธีหนึ่งที่หลายๆบ้านใช้ในการแก้ปัญหา แม้ว่าจะเป็นการเพิ่มค่าใช้จ่าย และสิ้นเปลืองพลังงานก็ตาม ดังนั้นจึงนำวิธีการใช้แอร์อย่างประหยัดมาฝากกัน ลองนำไปปฏิบัติตามได้ ดังนี้ครับ

     

    1. ควรใช้แอร์ที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5
    2. จุดที่ติดตั้งแอร์ ต้องสามารถกระจายความเย็นได้ทั่วทั้งห้อง
    3. ไม่ควรติดแอร์ด้านที่มีแสงแดดส่องแรงๆ เพราะจะทำให้แอร์ทำงานหนัก สิ้นเปลืองพลังงาน และต้องเสียค่าไฟมากเกินความจำเป็น
    4. ควรเลือกขนาดของแอร์ให้เหมาะสมกับพื้นที่ห้องที่ต้องการติดตั้ง แอร์โดยทั่วไปมีขนาดตั้งแต่ 9,000 – 8,000 BTU

    สูตรการคำนาณค่า BTU คือ พื้นที่ห้อง (กว้าง x ยาว) x ตัวแปร

    ตารางเปรียบเทียบขนาดของแอร์ (BTU) 

     

    1. ควรตั้งอุณหภูมิให้เหมาะสม คือ 25 องศา หรือ ประมาณ 26 – 28 องศา จริงๆแล้ว การตั้งอุณหภูมิที่ 25 องศา ไม่ได้ช่วยให้ประหยัดไฟที่สุด แต่เป็นอุณหภูมิที่ร่างกายรู้สึกเย็นสบายพอดี เช่น บางคนอาจจะชอบที่อุณหภูมิ 27 หรือ 28 องศา เป็นต้น ร่างกายของแต่ละคนจะรู้สึกเย็นสบายในอุณหภูมิที่แตกต่างกัน และอุณหภูมิยิ่งสูง ยิ่งช่วยให้ประหยัดค่าไฟ แต่ไม่ควรเปิดแอร์จนอุณหภูมิสูงจนไม่เกิดความเย็น ซึ่งจะกลายเป็นว่า ไม่ได้ใช้ประโยชน์จากการเปิดใช้แอร์ และถือเป็นการสิ้นเปลืองพนังงานด้วย
    2. ควรหลีกเลี่ยงการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้า ในห้องที่ใช้เครื่องปรับอากาศ เช่น เตาไฟฟ้า ไมโครเวฟ เป็นต้น
    3. ไม่ควรสูบบุหรี่ในห้องแอร์ เพราะจะต้องเปิดพัดลมระบายอากาศ เพื่อช่วยในการระบายกลิ่น และควันบุหรี่ ทำให้ความเย็นจากแอร์ถูกดูดออกไปด้วย
    4. ควรใส่เสื้อผ้าที่สบายๆ เหมาะกับสภาพอากาศ
    5. ควรล้างแผ่นกรอง และตะแกรงแอร์ เดือนละครั้ง รวมทั้ง ควรล้างแอร์ปีละ 2 ครั้ง เพื่อให้แอร์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถยืดอายุการใช้งานได้ยาวนาน และประหยัดค่าไฟได้ด้วย
    6. ควรเลือกใช้แอร์ที่มีแผ่นกรองอยู่ด้านนอก เพราะง่ายต่อการแกะล้าง
    7. ขณะที่เปิดใช้แอร์ควรปิดประตู – หน้าต่างให้มิดชิด เพื่อไม่ให้ความเย็นรั่วไหลออกภายนอกห้อง
    8. ควรปิดแอร์ก่อนออกจากห้องอย่างน้อย 30 นาที เพราะถึงแม้จะปิดแอร์แล้วแต่ก็ยังคงมีความเย็นอยู่

     

     

        13.ควรปิดคัทเอาท์แอร์เมื่อเลิกใช้งานทุกครั้ง

        14.คอยล์ร้อน ควรติดตั้งให้อยู่ในจุดที่โดนแดดน้อยที่สุด อยู่ในที่ร่ม และอากาศสามารถถ่ายเทได้สะดวก หรือติดตั้งให้ห่างจากผนังอย่างน้อย 15 เซนติเมตร ทำให้ช่วยระบายความร้อนได้ดี และยังช่วยประหยัดไฟได้ถึง 15 – 20 %

       15.ถ้าต้องเปิดใช้แอร์ต่อเนื่องนานเกิน 8 ชั่วโมง ควรเลือกใช้แอร์ Inverter เพราะจะช่วยทำให้ประหยัดไฟได้เกือบ 50% เลยทีเดียว

                     หากทุกคนนำวิธีการต่างๆนี้ไปปฏิบัติแล้ว เชื่อแน่ว่าจะสามารถใช้เครื่องปรับอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประหยัดค่าใช้จ่าย ทั้งค่าไฟฟ้า และค่าบำรุงรักษา รวมทั้งยังให้ความเย็นที่เพียงพอกับความต้องการได้ตลอดเวลา ที่สำคัญยังช่วยประหยัดพลังงานไฟฟ้าได้อีกด้วย

     

    ขอบคุณรูปภาพจาก Pinterest

  • สร้างบ้านอย่างไรให้ไม่มีปัญหากับผู้รับเหมา ผู้รับเหมากับเจ้าของบ้านเปรียบเสมือนลิ้นกับฟัน

    ในการทำงานร่วมกัน อาจมีบ้างที่ความคิดเห็นไม่ตรงกัน วันนี้เรามีเทคนิค แนะนำ ทำงานอย่างไรให้สองฝ่ายราบรื่น วันนี้เรามีคำตอบมาฝากกัน