เข้าลิ้น.....เคยได้ยินไหมครับคำนี้ ประโยชน์ของการเข้าลิ้นมีเยอะเหลือเกินวันนี้ผมมีข้อมูลมาฝากครับ
เข้าลิ้น.....เคยได้ยินไหมครับคำนี้ ประโยชน์ของการเข้าลิ้นมีเยอะเหลือเกินวันนี้ผมมีข้อมูลมาฝากครับ
เพื่อนๆ เคยรู้สึกไหมว่า ผนังบ้านของเราบางทีมันดูโล่งๆ เหมือนขาดอะไรไปบางอย่าง วันนี้เราจึงมีไอเดียดีๆ สำหรับการแต่งผนังให้มีสีสันสวยงามมาแนะนำกันค่ะ และยังสามารถใช้สิ่งของที่อยู่ใกล้ตัวมาแต่งผนังได้อีกด้วย เช่น กรอบรูป จาน งานศิลปะที่ทำขึ้นเอง อุปกรณ์ต่างๆ ที่หาได้ตามบ้าน หรือของที่ไม่ใช้แล้วก็สามารถนำมาสร้างสรรค์เป็นของเก๋ๆ สำหรับใช้ประดับผนังห้องได้ เราได้รวบรวมไอเดียต่างๆเหล่านั้นมาฝาก จะมีอะไรบ้างไปชมกันเลย
1. แต่งผนังด้วยคลิปบอร์ด เพิ่มความแปลกให้ให้กับผนังบ้าน
หากกลัวว่าผนังเสียหาย อาจใช้เพ็กบอร์ด หรือกระดานมายึดติดกับผนังก่อน แล้วจึงนำคลิปบอร์ดที่มีขนาดแตกต่างกันมาติด พร้อมทั้งนำรูปภาพ งานศิลปะที่ชื่นชอบ หรือทำขึ้นเองมาหนีบไว้กับคลิปบอร์ด เพื่อเพิ่มความสดใส สวยงาม น่ารักให้กับบ้าน
2. แต่งผนังด้วยรูปถ่ายใบโปรด หรือผลงานสร้างสรรค์
อาจเพิ่มความเก๋ไก๋โดยการเลือกใช้รูปภาพของเราเอง อาจทำภาพกราฟฟิค หรือลวดลายสวยๆ แปลกตาด้วยตัวเองก็ได้ นำมาใส่ในกรอบรูปสวยๆ ที่มีขนาดแตกต่างกัน เพื่อช่วยเพิ่มลูกเล่นให้กับผนังให้มากขึ้น
3. แต่งผนังห้องด้วยงานจักสาน
งานจักสานแบบไทยๆ ของบ้านเราก็สามารถนำแต่งผนังห้องให้ดูสวยงาม สะดุดได้นะคะ เปลี่ยนจากการใช้งานแบบเดิมๆ ให้มีคุณค่ามากยิ่งขึ้น โดยการนำมาเป็นเฟอร์นิเจอร์สำหรับการตกแต่งบ้าน แถมยังช่วยเปลี่ยนอารมณ์ บรรยากาศของบ้านได้อีกด้วย
4. ใช้หมวกใบโปรดมาแต่งผนัง
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบ และมีของสะสมเป็นหมวก ซึ่งกำลังพบกับปัญหาที่เก็บหมวกไม่เพียงพอไม่รู้จะเอาไปวางตรงไหน ไอเดียนี้สามารถตอบโจทย์คุณได้ค่ะเ พราะนอกจากจะเป็นที่เก็บให้คุณได้แล้ว ยังกลายเป็นของแต่งบ้านช่วยเพิ่มความชิคให้กับบ้านของคุณได้อีกด้วย
5. แต่งผนังด้วยงานศิลปะจากฝีมือตัวเอง
ไอเดียนี้เหมาะกับคนที่รักงานศิลปะเป็นชีวิตจิตใจ อาจจะเป็นงานภาพวาด งานกราฟฟิคสวยๆ หรืองานศิลปะของเด็กๆ นำมาติดผนัง ซึ่งเป็นของตกแต่งที่มีคุณค่าทางใจ และความภูมิใจของเจ้าของ อีกทั้งยังเพิ่มความสดใสให้กับบ้านได้ด้วยค่ะ
6. นำกิ่งไม้ ใบไม้มาแต่งผนัง เพิ่มความสดชื่นให้กับบ้าน
กิ่งไม้ ใบไม้ที่หักร่วงหล่นในสวนที่บ้าน อย่าเห็นว่าไม่มีค่านะคะ ของเหล่านั้นสามารถนำมาประดิษฐ์แล้วใส่กรอบรูปทำเป็นของแต่งบ้านได้ค่ะ ให้อารมณ์ความรู้สึกไปอีกแบบ เหมาะกับคนรักธรรมชาติมากๆเลยค่ะ
7. ตกแต่งผนังด้วยจานชามที่ไม่ใช้แล้ว
จานชามต่างๆ ที่มีอยู่ในบ้านถ้าไม่ได้ใช่แล้ว ลองเอามาเพ้นท์สี หรือตกแต่งลดลายลงบนจานใบเก่าดูนะคะ แล้วนำมาติดกับผนังบ้าน แค่นี้คุณก็จะได้ของแต่งผนังที่มีความแปลกให้ สวยงาม สดุดตาไม่เหมือนใครแล้วค่ะ
เป็นอย่างไงบ้างคะ สำหรับไอเดียการตกแต่งผนังบ้านจากของใกล้ตัวที่สามารถหาได้ทั่วไป ทั้งหมดที่เรานำมาแนะนำนี้เป็นเพียงแค่ตัวอย่างบางส่วนเท่านั้น หากที่บ้านของคุณมีของสะสม หรือของที่เก็บไว้นานไม่ได้ใช้ ลองนำมาทำดูก็ได้นะคะ ไม่แน่ว่าอาจได้ของเก๋ๆชิ้นใหม่สำหรับใ้ช้ในการแต่งบ้านก็ได้ค่ะ
ขอบคุณภาพประกอบจาก Pinterest
การจัดพื้นที่บ้านให้เหมาะสมกับทิศทางของแดดและลม เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญมาก ที่เราไม่สามารถมองข้างได้ จึงควรทำความเข้าใจในเรื่องทิศทางแดดและลม ตามแต่ละฤดูกาลของบ้านเราอย่างถูกต้อง เพื่อช่วยทำให้ให้บ้านไม่ร้อน มืดทึบ หรือมีกลิ่นเหม็นอับ ในตอนกลางวัน
แสงแดดในยามเช้า จะวิ่งจากทิศตะวันออก แล้วอ้อมโค้งไปทางทิศใต้ ก่อนจะตกลงในทิศตะวันตก ทำให้ทิศใต้ไปจนถึงทิศตะวันตก จะได้รับแสงแดดมากที่สุด คือ ตั้งแต่หลังเที่ยงวันไปจนถึงเวลา 5 โมงเย็น ดังนั้นจึงควรใช้ทิศทางนี้ในการทำกิจกรรมต่างๆที่ต้องการแสงแดด เช่น ใช้ตากผ้า หรือปลูกต้นไม้ที่ต้องการแสงแดด เป็นต้น
ทางทิศตะวันออกจะได้รับแสงอ่อนๆในตอนเช้า และแดดจะแรงจัดในช่วงเวลา 10 โมงเช้าถึงเที่ยงวัน
ทางทิศเหนือจะได้รับแสงแดดน้อยที่สุด เหมาะกับห้องที่ต้องการแสงน้อย เช่น ห้องนอน และห้องรับแขก เป็นต้น
ตำแหน่งของบ้านที่ลมสามารถวิ่งผ่านได้ดี คือ ต้องอยู่ในแนวผ่านของลมประจำฤดู ดังนี้
หน้าหนาว ลมจะพัดจากทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ไปยังทิศตะวันตกเฉียงใต้
หน้าร้อน และหน้าฝน ลมจะพัดจากทิศตะวันตกเฉียงใต้ ไปยังทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
ขนาดของช่องลมเข้า – ออกที่ดีที่เหมาะสำหรับบ้าน คือ
ช่องลมเข้า ควรมีขนาดเล็กกว่า หรือเท่ากับช่องลมออก
ถ้าช่องลมเข้ามีขนาดใหญ่กว่า แล้วช่องลมออกมีขนาดเล็กกว่า หรือไม่มีช่องลมออกเลย
จะทำให้อากาศถ่ายเทได้ไม่สะดวก และควรหันด้านที่ยาวที่สุดของตัวบ้านเข้าหาทิศทางของลม เพื่อให้ลมธรรมชาติสามารถพัดเข้าในตัวบ้านได้ เป็นการช่วยระบายความร้อนออกจากตัวบ้านให้ได้มากที่สุด ทำให้ช่วยลดค่าใช้จ่ายาจากการเปิดใช้เครื่องปรับอากาศได้อีกด้วย
เมื่อทราบถึงทิศทางของแสงแดด และสายลมแล้ว ก็จะช่วยให้เราสามารถปรับเปลี่ยน แก้ไขบ้านได้อย่างถูกต้อง เพื่อให้บ้านมีอากาศถ่ายเทได้สะดวก มีทั้งลมเข้า ลมออก และบ้านของเราจะเป็นบ้านที่เย็นสบายตลอดทั้งปี
ปัญหากระเบื้องระเบิดเป็นปัญหาที่เกิดกับเทคนิคการปูกระเบื้องโดยตรงเพราะตามลักษณะของกระเบื้องแล้วหากใช้วิธีการปูที่ไม่ดีอาจทำให้เกิดปัญหาที่ทำให้กระเบื้องแตกร้าว หรือระเบิดได้ดังนี้
1.ปูกระเบื้องเว้นแนวร่องชิดเกินไป
ช่างหลายคน ชอบปูกระเบื้องร่องชิด เพื่อให้ดูสวยงาม แต่หากในบริเวณที่ปูกระเบื้องนั้น มีการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิระหว่างวันมาก คือ กลางวันอากาศร้อนจัด ส่วนเวลากลางคืน อุณหภูมิก็ลดลงเร็ว ทำให้ตัวกระเบื้องมีการขยายตัวตอนกลางวัน และหดตัวตอนกลางคืน แต่เมื่อมีการปูกระเบื้องเว้นร่องน้อย ทำให้เมื่อกระเบื้องมีการขยับตัว จะเบียดกันเอง ทำให้เกิดการโก่ง และแตกออกมาจากพื้นได้
2.ไม่ได้ทาปูนกาวลงบนหลังกระเบื้อง หรือมีการปูกระเบื้องแบบซาลาเปา
ช่างกระเบื้องบางคน เวลาปูกระเบื้อง จะทาปูนลงบนพื้นเท่านั้น แต่ไม่ได้ทาปูนกาวที่แผ่นกระเบื้อง โดยช่างจะทำการวางกระเบื้องบนปูนที่เตรียมไว้ และเคาะให้ได้ระดับไปเลย ทำให้การยึดเกาะตัวระหว่างพื้นกับกระเบื้องไม่ดีเท่าที่ควร (จะเห็นจากรูปกระเบื้องที่แตก หลุดร่อนออกมา ไม่มีปูนติดกระเบื้อง) หรืออาจเกิดจากการที่ช่างใช้วิธีปูกระเบื้องแบบซาลาเปา คือ ใส่ปูนแค่บริเวณกลางแผ่นกระเบื้อง แล้วทำการเคาะให้ได้ระดับ ซึ่งวิธีนี้เป็นวิธีที่ช่างทำงานง่าย และเร็ว แต่ประสิทธิภายในการยึดเกาะของกระเบื้องกับพื้นเดิม ไม่ดี และกระเบื้องก็มีโอกาส แตกบิ่น บริเวณมุมได้ง่ายอีกด้วย
การแก้ไขสำหรับกรณีที่เกิดกระเบื้องระเบิด
1.ควรเลาะกระเบื้องเก่าออกทั้งหมด แล้วทำการปูใหม่และสำหรับบ้านสร้างใหม่ เราก็สามารถป้องกันปัญหาดังกล่าวได้
2.การปูให้ถูกวิธีตั้งแต่แรก คือ ปรับระดับพื้นให้เหมาะสม
3.ใช้ปูนกาวซีเมนต์ที่มีคุณภาพ โดยทาให้เต็มทั้งพื้นและทาที่หลังกระเบื้องด้วย แล้วทำการเว้นร่องกระเบื้องตามระยะที่กำหนด ก็จะทำให้พื้น ที่เราปูกระเบื้องไว้ มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน คงทนไปตลอดอายุการใช้งาน
" บานเฟี้ยม " เป็นคำที่คุ้นหูที่เราเคยได้ยินกันมาบ้างแล้ว
แต่บางคนอาจจะไม่ทราบว่า บานเฟี้ยมคืออะไร เรามีคำตอบให้ครับ
ในการทำงานอุปกรณ์เวฟตี้เป็นสิ่งสำคัญ เพราะเหตุการณ์อันตรายจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ก็ได้หากไม่ระวัง วันนี้เรามีอุปกรณ์เซฟตี้ที่ควรมีไว้ในงานก่อสร้างมาฝากกัน
ข้อกำหนด
ทดสอบ :O)
123 ถนนอยู่สุข เขตอยู่สุข กรุงเทพฯ 10000
02-123-4567
support@vlivingpro.com
แก้ไขความคิดเห็น