เลี้ยงน้องหมาอย่างถูกวิธี และไม่ทำให้มีปัญหากับเพื่อนบ้าน
By vLIVING PRO20 กุมภาพันธ์ 2561 16:23:42

การเลี้ยงสุนัข เป็นปัญหายอดฮิต ที่ทำให้เกิดปัญหา การทะเลาะวิวาทกับเพื่อนบ้านได้ จึงควรดูแลใส่ใจน้องหมาของเรา ไม่ทำให้เพื่อนบ้านเกิดความรำคาญใจ จึงควรคำนึงถึงเรื่องต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น ดังนี้

 

  1. เลือกเลี้ยงสุนัขให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมที่เราอยู่อาศัย

 

 ไม่ควรเลือกนำมาเลี้ยงเพียงเพราะความชอบส่วนตัว หรือถูกใจเพียงแค่หน้าตาน่ารักอย่างเดียวเท่านั้น   ควรศึกษาข้อมูลของสุนัขแต่ละสายพันธุ์ให้ดีก่อนนำมาเลี้ยง เช่น บุคลิก ลักษณะนิสัย หรือพฤติกรรม ของสุนัขแต่ละสายพันธุ์ เป็นต้น

 

 

  1. จัดพื้นที่ให้เป็นสัดส่วน

 

 

 

 แบ่งเขตให้สุนัขรู้จักพื้นที่ของตัวเอง  เพื่อเป็นการสร้างวินัยให้กับสุนัข มีพื้นที่กว้างพอดีกับขนาดตัวของสุนัขแต่ละสายพันธุ์  อากาศถ่ายเทได้สะดวก และร่มรื่น

 

 

  1. เก็บอึ ฉี่ ของสุนัขไม่ให้รบกวนเพื่อนบ้าน

เจ้าของสุนัขควรมีความรับผิดชอบ ในการขับถ่ายของสุนัข ควรฝึกให้สุนัขขับถ่ายในที่ที่เตรียมไว้ หมั่นทำความสะอาดกรง และแผ่นรองอย่างสม่ำเสมอ หรือพาสุนัขออกไปขับถ่ายเวลาเดิมทุกๆวัน เพื่อให้สุนัขมีระบบการขับถ่ายที่แน่นอน ตรงเวลา และควรนำถุง หรือกระดาษไปด้วย  เพื่อเก็บกองอึของสุนัขให้เรียบร้อย ซึ่งเป็นความรับผิดชอบของเจ้าของสุนัขที่มีต่อสังคม เพื่อเป็นการรักษาชุมชนให้น่าอยู่ ไม่ทำให้ผู้อื่นเกิดความเดือดร้อน

 

  1. ใส่สายจูงให้สุนัขทุกครั้ง เมื่อออกจากบ้าน

 

 

ทำให้สามารถควบคุมสุนัขได้ง่าย ช่วยให้สุนัขปลอดภัยจากอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น ช่วยป้องกันไม่ให้สุนัขวิ่งเข้าบ้านคนอื่น ช่วยให้คนรอบข้างปลอดภัยจากสุนัขของเรา หากสุนัขของเรามีความดุร้าย และยังช่วยป้องกันปัญหาสุนัขกัดกันได้อีกด้วย

 

 

  1. ฝึกสุนัข ไม่ให้ปากเปราะ

 

ควรเริ่มฝึกตั้งแต่เล็กๆ และค่อยๆฝึกอย่างใจเย็น โดยการที่ เมื่อเห็นว่าสุนัขเห่าสิ่งต่างๆรอบตัว ผู้เลี้ยงควรนิ่งเฉยไว้ก่อน แล้วจึงค่อยเบี่ยงความสนใจ โดยการเคาะโต๊ะ หรือเก้าอี้ เพื่อทำให้สุนัขตกใจ เมื่อสุนัขหยุดเห่าผู้เลี้ยงควรพูดชมว่า “ดีมาก” แล้วลูบที่ต้นคอของสุนัข หรือถ้าสุนัขเห่าเพื่อขอของกิน ผู้เลี้ยงห้ามให้เด็ดขาด  รอให้สุนัขหยุดเห่าแล้วจึงค่อยให้ของกิน เพื่อฝึกให้สุนัขรู้ว่า ต้องไม่เห่าจึงจะได้ของกิน

 

  1. รับฟังความคิดเห็นของเพื่อนบ้าน

 

 

พูดคุยกับเพื่อนบ้าน สอบถามถึงปัญหา และผลกระทบที่ได้รับจากสุนัขของเรา เพื่อหาทางแก้ไข และป้องกันปัญหาต่างๆที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต

 

  1. สุนัขชอบทำลายข้าวของ

 

 

ปัญหานี้ อาจเกิดขึ้นเพราะ สุนัขเกิดความเครียด เหงา กลัวว่าจะโดนทิ้ง จึงแสดงพฤติกรรมที่ไม่ดีออกมา เพื่อเรียกร้องความสนใจ ผู้เลี้ยงควรฝึกสุนัขตั้งแต่เล็กๆ ให้คุ้นกับการอยู่ตัวเดียว แต่ถ้าสุนัขชอบทำลายข้าวของเป็นประจำ ทั้งๆที่ไม่ได้อยู่ตัวเดียว ผู้เลี้ยงต้องทำโทษด้วยการ นำกระดาษหนังสือพิมพ์มาม้วน แล้วตีสุนัขเบาๆ ให้เกิดเสียง เพื่อให้สุนัขรู้ว่า ถ้าทำแบบนี้อีกจะถูกทำโทษ

 

  1. มีเวลาใส่ใจดูแลสุนัข

 

 

ควรสัมผัสตัว ลูบหัว พูดคุยกับสุนัข และควรพูดชมว่า “ดีมาก”  “เก่งมาก” เมื่อสุนัขทำตัวดี น่ารัก รวมถึง ควรมีเวลาว่างเพื่อทำกิจกรรมร่วมกับสุนัขด้วย เช่น พาไปออกกำลังกาย เดินเล่นนอกบ้าน เป็นต้น ช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการพาสุนัขไปเดินเล่น คือ

 

ตอนเช้า ใช้เวลาเดินเล่น ประมาณ 20 – 30 นาที เพื่อช่วยให้สุนัขปลดปล่อยพลังงาน คลายความเครียด ลดนิสัยก้าวร้าว และช่วยให้สุขภาพแข็งแรง

 

ตอนเย็น เวลาที่เหมาะสมคือ ตั้งแต่เวลา 17.30 น. เป็นต้นไป ใช้เวลาเดินเล่นประมาณ 40 นาที ถึง 1 ชั่วโมง เพื่อช่วยให้สุนัขคลายความเครียด หลังจากที่ต้องอยู่บ้านมาทั้งวัน

 

วันเสาร์ – อาทิตย์ เป็นวันที่เหมาะกับการฝึกวินัยให้กับสุนัขเพื่อให้ทำตามคำสั่ง และทำกิจกรรมต่างๆร่วมกัน เช่น การพาสุนัขไปตรวจสุขภาพ ไปเที่ยว หรือว่ายน้ำ เป็นต้น เพื่อสร้างความใกล้ชิดสนิทสนม ระหว่างเจ้าของกับสุนัข

 

 

กฎหมายการเลี้ยงหรือปล่อยสุนัข พ.ศ. 2548 ข้อ 26 และพระราชบัญญัติการสาธารณะสุข พ.ศ. 2535 มาตรา 73 วรรค 2 มีดังนี้

  1. ผู้เลี้ยงต้องดูแลสุนัขไม่ให้ก่อเรื่องเดือดร้อน เช่น เห่าเสียงดังนานๆ เป็นต้น
  2. ต้องดูแลพื้นที่ที่เลี้ยงสุนัขให้สะอาดอยู่เสมอ
  3. กำจัดสิ่งปฏิกูลของสุนัขอย่างสม่ำเสมอ
  4. เมื่อสัตว์เลี้ยงตาย ผู้เลี้ยงต้องจัดการให้ถูกสุขลักษณะ เพื่อป้องกันเชื้อโรคและกลิ่นเหม็น ซึ่งอาจสร้างความเดือดร้อนให้กับเพื่อนบ้านได้
  5. หากสุนัขมีความดุร้าย จะต้องผูกสายลากจูง ที่มีความยาวไม่เกิน 50 เซนติเมตร และต้องใส่ที่ครอบปากตลอดเวลาที่ออกนอกบ้าน หากฝ่าฝืนต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท หากผู้ใดพบเห็นผู้ที่ทำผิดกฎหมาย และมีหลักฐาน เช่น รูปถ่าย ว่าสุนัขกำลังทำร้ายคน จะมีโทษปรับเป็น 2 เท่า คือ ปรับไม่เกิน 5,000 บาท รวมถึงชดใช้ค่าเสียหาย ค่ารักษาพยาบาล และค่าทำขวัญ

 

ก่อนตัดสินใจซื้อสุนัขมาเลี้ยง ควรศึกษาให้ดี รวมทั้งศึกษาตัวเราเองด้วยนะคะว่าพร้อมที่จะดูแลน้องหมาหรือไม่ เพื่อไม่ให้เดือดร้อนผู้อื่น และกลายเป็นปัญหาของสังคมในอนาคตด้วยค่ะ

 

ขอบคุณรูปภาพจาก Pinterest

vLIVING PRO
สนใจติดต่อโฆษณาเว็บไซต์กับ vLIVING PRO โทร.02-101-9493 #16, 082-359-3382
บทความอื่นที่น่าสนใจ
  • วันนี้เราขอนำเสนอไอเดีย D.I.Y ง่ายๆ ด้วยอุปกรณ์ที่ทุกคนมีอยู่แล้วในบ้าน ซึ่งอาจจะมีเหลือใช้ซะด้วยสิ สิ่งนั้นคือ “ไม้แขวนเสื้อ” เรามาดัดแปลงไม้แขวนเสื้อที่คนทั่วไปใช้ประโยชน์เพียงแค่แขวนเสื้อผ้า ให้เกิดเป็นสิ่งของใหม่ๆ เก๋ๆ ไม่เหมือนใคร สามารถใช้ประโยชน์ได้มากมาย หลากหลายรูปแบบกันเถอะค่ะ มาดูกันค่ะว่าไอเดียดีๆ เหล่านี้จะมีอะไรบ้าง

     

    1. แขวนเครื่องประดับต่างๆ

    ไอเดียนี้เหมาะสำหรับคุณผู้หญิงที่มีปัญหาเรื่องการเก็บต่างหู หรือสร้อยคอ ลองนำไม้แขวนเสื้อไม้ที่ไม่ใช้แล้ว มีดัดแปลงทำเป็นที่แขวนต่างหู หรือสร้อยคอดูนะคะ เพิ่มเท่านี้สาวๆ ก้จะมีไม้แขวนเครื่องประดับชิคๆ ดูเป็นระเบียบเรียบร้อย และไม่ยุ่งยากด้วยค่ะ

        

     

    2. ใช้แขวนผ้าพันคอ

    การนำไม้แขวนเสื้อมาแขวนผ้าพันคอสามารถทำได้ง่ายๆ แค่นำสายรัดอันเล็กๆ มาคล้องไว้กับไม้แขวนเสื้อเพื่อใช้รัดผ้าพันคอ หรือนำผ้าพันคอมาพันกับไม้แขวนเสื้อแล้วจัดให้เป็นระเบียบ แค่นี้ก็หมดปัญหาการเก็บผ้าพันคอแล้ว แถมยังง่ายต่อการหยิบใช้งานอีกด้วยค่ะ

           

     

    3. ใช้แขวนหนังสือ

    สำหรับคนที่ชอบอ่านหนังสือ ลองนำไม้แขวนเสื้อมาทำเป็นที่แขวนหนังสือ นิตยสาร หรือหนังสือพิมพ์ที่ชื่นชอบดูค่ะ แล้วนำไปติดไว้ตามมุมโปรดของบ้าน จะช่วยให้หยิบอ่านได้ง่ายขึ้นค่ะ

      

     

    4. แขวนรูปภาพ หรืองานศิลปะ

    ใครที่ชอบวาดรูประบายสี ก็ลองนำไม้แขวนเสื้อและที่หนีบผ้ามาแขวนรูปภาพความทรงจำดีๆ หรือผลงานศิลปะที่สร้างสรรค์ก้ได้นะคะ เป็นการตกแต่งห้องไปในตัวด้วย และช่วยเพิ่มความสดใสได้ไม่น้อย แถมยังภูมิใจกับผลงานของตัวเองอีกด้วยค่ะ

      

       

    5. แขวนของใช้ต่างๆ

    นำไม้แขวนเสื้อสวยๆ ที่เตรียมไว้ที่มีขนาดสัดส่วนที่พอดี นำมาตกแต่งติดผนังตามแบบที่ต้องการ แค่นี้คุณก็จะได้ที่แขวนของสวยๆ มาใช้งานแล้ว ช่วยให้บ้านดูดี มีระเบียบขึ้นมาอีกด้วยค่ะ

      

      

    6. ตกแต่งไม้แขวนเสื้อสุดเดิร์นจากเศษผ้า

    ตัดผ้าออกเป็นเส้นเล็กๆ แล้วนำไปพันรอบไม้แขวนเสื้อโดยใช้กาวน้ำลูบกับผ้าไปพร้อมๆ กันด้วย จนพันผ้าครบรอบไม้แขวนเสื้อ แค่นี้ก็ได้ไม้แขวนเสื้ออันใหม่ที่สวยงามไฉไลกว่าเดิมค่ะ

      

     

    7. ใช้แขวนกระดาษทิชชู

    นำไม้แขวนเสื้อมาทำเป็นที่แขวนกระดาษทิชชู แล้วอาจติดตั้งไว้ใกล้อ่างล่างมือ หรือที่ที่เหมาะในการหยิบใช้สอยได้สะดวก อาจติดกับผนังให้สูงสักนิด เพื่อไม่ให้น้ำกระเด็นเปียก

      

     

    หวังว่าไอเดียเหล่านี้ จะเป็นตัวช่วยให้กับคุณได้ ไม่ว่าจะเป็นไม้แขวนเสื้อแบบไหน คุณก็สามารถสร้างสรรค์ของใช้ใหม่ๆ ด้วยไอเดียเก๋ๆ ได้ เป็นของใช้สารพัดประโยชน์ไว้ใช้ภายในบ้านได้ และสามารถทำเองได้ง่ายนิดเดียว ลองทำกันดูนะคะ 

     

  • อยากจะเลือกแอร์สักตัว อากาศก็ร้อนเหลือเกิน แต่ก็ไม่รู้จะเลือกแบบไหนให้เหมาะกับบ้าน
    ผมมีตัวเลือกของแอร์ แบบต่างๆ มาให้เพื่อนได้ดูกัน ให้เป็นประโยชน์กับเพื่อนๆนะครับ

     

     

  • " มด " เป็นสัตว์ตัวจิ๋วแต่ปัญหาไม่จิ๋วเหมือนตัว มดสร้างความรำคาญให้แก่เจ้าของบ้านมากมาย

    ไม่ว่าจะเป็น มาตอมอาหาร หรือมากัด ให้กวนใจ วันนี้เรามี 10 เทคนิค ในการกำจัดมดมาฝากกันครับ

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

  •      หน้าร้อนแบบนี้ สิ่งที่ควรระวังมากที่สุดไม่ใช่การกังวลแค่อากาศร้อน แต่บ้านไหนที่มีสัตว์เลี้ยง เช่นน้องหมาหรือน้องแมว ก็น่าเป็นห่วงไม่น้อยเช่นกัน หากเราปล่อยไว้ในที่อากาศร้อนมากๆ อาจทำให้ร่างกายเกิดอาการ “ฮีทสโตรก” คือร่างกายปรับตัวไม่ทันกับอากาศที่ร้อน อาจเกิดจากการออกกำลังกายมากๆในช่วงหน้าร้อน หรือการขาดน้ำ หรืออยู่ในที่ที่มีอากาศร้อนจนเกินไปเป็นเวลานานๆ ร่างกายไม่สามารถที่จะปรับระบบระบายความร้อนได้ทันที

     

    สุนัข

    ร่างกายของสุนัขจะไม่มีต่อมเหงื่อตามรูขุมขนเหมือนมนุษย์อย่างเราๆ จึงสังเกตกันไหมว่า สุนัขจะชอบทำลิ้นห้อยอยู่ตลอดเวลา เพราะเป็นการระบายความร้อนนั่นเอง

     

     

    หากสุนัขไม่สามารถ ระบายอากาศได้ทันจะมีอาการหายใจแรง หอบ และน้ำลายเยอะ เหงือกแดง หัวใจเต้นเร็ว หายใจลำบาก อาเจียนออกเป็นเลือด ถ่ายเป็นเลือด มีจุดแดงตามร่างกาย กล้ามเนื้อกระตุก อุณหภูมิร่างกายสูง จนเกิดอาการชัก หยุดหายใจและตายได้ ควรรีบนำไปพบแพทย์ให้เร็วที่สุด

     

     

    วิธีการปฐมพยาบาล

    ลดอุณหภูมิโดยการนำน้ำมาชโลมให้ทั่วร่างกายหรือใช้สารระเหยที่ทำให้เกิดความเย็นเช่นแอลกฮอล์มาเช็ดที่อุ้งเท้า ใต้รักแร้ และขาหนีบ หลังจากนั้นเปิดพัดลมจ่อเพื่อระบายความร้อน

    วิธีป้องกัน

    1.อย่าให้น้ำขาด มีน้ำให้กินตลอดเวลา

     

    2.ไม่พาออกกำลังกายในที่มีอากาศร้อนจัดๆหาที่หลบแดดให้อยู่ในช่วงกลางวัน

     

    3.ห้ามทิ้งสุนัขไว้ในรถเด็ดขาด หากจำเป็นควรจอดไว้ในที่ร่มมีอากาศถ่ายเทได้สะดวก หรือทำการเปิดกระจกให้มีอากาศและมีน้ำดื่มทิ้งไว้ให้ด้วย

     

    4.หากจะให้อาหารในที่แจ้ง ควรเลือกให้เวลาที่พระอาทิตย์ตก เนื่องจากสุนัขไม่กินอาหารถ้าอากาศร้อน

     

     

    5.หากร้อนเกินไปอาบน้ำหรือราดน้ำให้ทั่วตัวปล่อยให้ตัวแห้งหมาดๆเพื่อให้ร่างกายมีความเย็นอยู่

     

     

    6.ใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำหมาดปูนอนตอนกลางวัน หรือใช้พัดลมเป่า

     

     

     

    แมว

    แมวเป็นสัตว์ที่ไม่ชอบน้ำเอามากๆ หากจะเอาไปอาบน้ำก็คงจะไม่ได้  มาดูวิธีคลายร้อนให้แมวกัน

    1.วางก้อนน้ำแข็งไว้ใกล้ๆแมว

    หากวันไหนที่อากาศร้อนจัดๆแล้วต้องออกไปนอกบ้านหรือไม่อยู่บ้านไม่มีเวลาดูแล ให้นำน้ำแข็งมาใส่จานน้ำของน้องแมวเพื่อให้ดื่มคลายร้อนระหว่างวัน

     

     

    2.เปิด-ปิดแอร์เมื่อไม่อยู่บ้าน

    ไม่จำเป็นต้องเปิดแอร์ทั้งวันเพียงแค่ตั้งเวลา เปิด ปิดไว้ ในช่วงที่ร้อนที่สุด ระยะเวลา 1-2 ชั่วโมง หากกลัวจะร้อนไปอีกก็สามารถเปิดพัดลมเพื่อให้มีลมหมุนเวียนไปด้วยก็ได้

     

     

    3.เปลี่ยนน้ำบ่อยๆ

    น้ำที่น้องแมวดื่มควรสะอาดและเย็นเสมอ และควรหมั่นเปลี่ยนบ่อยๆ

     

     

    4.ตัดขน

    ถ้าน้ำแมวของคุณเป็นพันธ์ที่มีขนยาวหนา แนะนำให้ตัดขนส่วนลำตัวให้สั้นแล้วเหลือหัวไว้

     

     

     

     

     หน้าร้อนแบบนี้เป็นอันตรายกับสัตว์เลี้ยงมาก หากไม่อยากให้สัตว์เลี้ยงของเราเกิดอาการฮีทสโตรกก็ควรจะดูแลเยอะมากกว่าปกติ เพราะสัตว์ก็ร้อนเหมือนคนเช่นกัน

  •  ท็อปปิ้งเป็นชื่อเรียกในงานก่อสร้าง หลายคนอาจคนงงว่าคืออะไร ทำไมชื่อแปลกๆ วันนี้่เรามีคำตบมาฝากกัน