บทสัมภาษณ์ วิศวกร วิน
By vLIVING PRO09 กรกฎาคม 2562 09:36:49

ถ้าใครเคยติดตามเพจ "ผู้รับเหมาผู้ซื่อสัตย์" ในช่วงที่ผ่านมา จะทราบดีว่ามีคำแนะนำดีๆจากคุณวิน - พิรัตน์ พลธีระเสถียร วิศวกรอารมณ์ดี มาถ่ายทอดเคล็ดลับเรื่องการสร้างบ้านที่เจ้าของบ้านควรรู้ มาทำความรู้จักกับวิศวกรสุดใจดีท่านนี้ ถึงเหตุผลที่เขาเลือกที่จะแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับการสร้างบ้านแบบไม่มีกั๊กกันค่ะ 

ประวัติ คุณวิน – พิรัตน์ พลธีระเสถียร

          ชีวิตวัยเด็กของผมก็เหมือนกับเด็กทั่วๆไป  แต่บ่อยครั้งที่ในช่วงวันหยุดผมจะติดตามคุณพ่อไปตามไซด์งานต่างๆ ได้คลุกคลี ได้เห็นการทำงาน ทำให้เกิดความผูกพัน และเกิดเป็นความชอบในสายงานนี้ เมื่อจบชั้นมัธยมศึกษาปีที 6 จากโรงเรียนอัสสัมชัญบางรัก จึงศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จากนั้นก็ได้มีโอกาสเดินทางไปศึกษาต่อที่ประเทศอังกฤษ ในหลักสูตร Master  of Enterprise in Environmental Innovation จาก The University of Manchester

          หลังจากเรียนจบ  ผมได้เริ่มหาประสบการณ์ในบริษัทเอกชนหลายแห่ง อยู่นานหลายปี พร้อมกับเริ่มค้นหาตัวเองไปด้วย สุดท้ายจึงตัดสินใจกลับมาสานต่อธุรกิจก่อสร้างของที่บ้าน ซึ่งทำมาตั้งแต่รุ่นคุณปู่ รุ่นคุณพ่อ จนมาถึงรุ่นของผม ซึ่งถ้านับรวม 3 เจเนอเรชั่นก็ประมาณ 80 ปีครับ โดยในยุคแรกๆ จะรับงานพวกหินขัด ทรายล้าง ต่อมาเริ่มขยายงานเพิ่ม รับงานต่อเติม รีโนเวทอาคารทั้งหลัง จนในปัจจุบันกลายเป็นธุรกิจรับก่อสร้างบ้าน อาคารพาณิชย์ ทาวน์เฮ้าส์ โรงงาน       อพาร์ทเมนต์ ซึ่งครบวงจรตั้งแต่งานออกแบบ งานฐานราก งานโครงสร้าง งานสถาปัตย์ ไปจนถึงงานอินทีเรียบิวท์อิน

          ผมเริ่มต้นเรียนรู้การทำงานกับคุณพ่อ ช่าง และโฟร์แมนที่คุมไซด์งาน ศึกษาตั้งแต่งานฐานราก งานระบบต่างๆ ของบ้าน ไปจนถึงการเก็บรายละเอียดงาน ก่อนส่งมอบบ้านให้กับลูกค้า ทำให้มีประสบการณ์พบเจอปัญหาในหลายๆรูปแบบ ซึ่งผมก็ชอบที่จะเรียนรู้เพิ่มเติม เพื่อนำมาประยุกต์ใช้ และแก้ไขการทำงานให้ดียิ่งขึ้น ผมอยากให้เป็นบริษัทก่อสร้างที่เติบโต และพร้อมเดินหน้าไปได้อย่างมั่นคง ลูกค้ามีความพึงพอใจ และได้รับงานที่มีคุณภาพตามที่คาดหวัง เพราะทุกขั้นตอนของการสร้างบ้านต้องมีการดูแล และควบคุมคุณภาพอย่างทั่วถึง ตั้งแต่การเริ่มออกแบบ จนสร้างเสร็จสมบูรณ์ทั้งหลัง ซึ่งผลของความไม่ซื่อสัตย์จะอยู่อยู่ในรูปแบบของการล็อคสเป็ค แบรนด์วัสดุที่เลือกใช้ของผู้ออกแบบ การฮั้วการประกวดราคากับผู้รับเหมา การหมกเม็ด การสับงานแบบไม่มีคุณภาพของผู้รับเหมา ไม่มีการควบคุมคุณภาพของงาน การลดปริมาณของ ลดสเป็ควัสดุ ซึ่งตรงนี้สามารถเกิดได้ทุกขั้นตอน อย่างไรก็ตามหากเกิดการลดสเป็ควัสดุ หรือลดของในขั้นตอนของงานฐานรากและโครงสร้าง ผมมองว่าน่าจะทำให้เกิดผลกระทบมากที่สุด เพราะโครงสร้างและฐานรากถือเป็นพื้นฐานหลักของความแข็งแรงและอายุการใช้งานของตัวบ้าน ซึ่งสาเหตุดังกล่าวอาจส่งผลให้บ้านทรุด แตกร้าว และไม่สามารถแก้ไขปัญหาให้หายขาดได้อย่างถาวรอีกด้วย

แฟนเพจ "ผู้รับเหมาผู้ซื่อสัตย์" เกิดขึ้นเพราะอะไร เมื่อไหร่ และเพื่อคนกลุ่มไหน?

          ผมเริ่มทำเพจ “ผู้รับเหมาผู้ซื่อสัตย์” ในช่วงปลายปี 58 จุดประสงค์ คือ อยากช่วยให้การสร้างบ้านและปรับปรุงอาคารเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น โดยเน้นวิธีกาารให้ข้อมูลในรูปแบบที่แม้แต่คนทั่วไปสามารถทำความเข้าใจได้โดยใช้เวลาอันสั้น เพราะจากประสบการณ์ที่เจอมา คนรอบข้างมักจะบ่นถึงปัญหาระหว่างที่สร้างบ้านหรือปรับปรุงอาคาร ทั้งๆที่ดูเหมือนจะไม่มีอะไร แต่พอถึงหน้างานกลับเจอปัญหามากมายหลายรูปแบบ ทั้งเรื่องการก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน สร้างผิดแบบ ปัญหาจากตัวบุคคล เช่น ผู้รับเหมาทิ้งาน เจ้าของบ้านสื่อสารกับช่างแล้วไม่เข้าใจกัน รวมถึงงบบานปลาย ปัญหาเหล่านี้เมื่อเกิดขึ้นแล้วอาจจะไม่สามารถแก้ไขได้ง่าย หรือทำให้เกิดความเสียหายจนไม่สามารถแก้ให้กลับมาดีได้ตามที่ตั้งใจไว้ เพจ "ผู้รับเหมาผู้ซื่อสัตย์" จึงเป็นเหมือนสื่อกลางในการแบ่งปัน แชร์ แลกเป็นความรู้ ปัญหา และประสบการณ์ ระหว่างกันในสายงานการก่อสร้าง ไม่ว่าจะเป็นช่าง ผู้รับเหมา วิสวกร สถาปนิก หรือแม้แต่เจ้าของบ้านเอง โดยทางเพจพร้อมจะแชร์เทคนิคให้เพื่อนๆที่กำลังฝันอยากมีบ้าน รวมถึงช่างผู้ชำนาญการด้านต่างๆได้เข้าใจ เพื่อให้งาก่อสร้างสามารถเดินหน้าไปได้อย่างราบรื่น

คุณวินอยากให้องค์ความรู้เรื่องการก่อสร้างไม่ได้จำกัดแค่ในวงการผู้รับเหมา?

           ใช่ครับ วัตถุประสงค์ของเพจคือ เราจะทำความรู้เกี่ยวกับบ้าน ที่อาจจะเป็นเรื่องยากๆ ให้คนทั่วไปหรือช่างบางตนรู้ในรูปแบบที่ไม่น่าเบื่อและเข้าใจง่าย เช่น บทความการ์ตูนภาพ บทความวิเคราะห์ปัญหาที่คนส่วนใหญ่พบเจอ คลิปวีดีโอแนะนำเทคนิคการเลือกใช้วัสดุและการแก้ปัญหาหน้างานต่างๆ แบบเข้าใจง่าย ซึ่งไม่ได้จำกัดเฉพาะวงผู้รับเหมา แต่ยังเป็นประโยชน์กับคนอื่นๆในสายงานการก่อสร้างอีกด้วย คำถามที่ถามเข้ามาทางหน้าเพจ ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องเทคนิคการก่อสร้าง การเลือกใช้วัสดุที่หมาะสม การดีลงานกับช่างหรือผู้รับเหมา ปัญหาหลังจากซื้อหรือสร้างไปแล้ว และอีกมากมาย ตรงนี้เราก็จะช่วยวิเคราะห์ หาข้อมูล สาเหตุ รวมถึงแนวทางการแก้ไข เพื่อช่วยลดปัญหาและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากปัญหาดังกล่าว

เว็บไซด์ vLIVING PRO สังคมการก่อสร้างคุณภาพแห่งใหม่เป็นอย่างไร?

          หลังจากที่ทำเพจไปได้ระยะหนึ่ง ผมพบว่าเจ้าของบ้านส่วนใหญ่มักกลัวผู้รับเหมา เนื่องจากผู้รับเหมาส่วนใหญ่ไม่มีตัวตน ทำให้เมื่อมีปัญหาหน้างานหรือเงินทุนหมุนเวียนไม่พอ ก็อาจทิ้งงานได้ และหลายๆคนก็ไม่รู้ว่าจะไปหาช่าง ผู้รับเหมา หรือสถาปนิกจากที่ไหนมาสานงานต่อ เราจึงตั้งให้เวปไซด์นี้เป็น "สังคมการก่อสร้างที่ดีที่สุด" ที่จะยกระดับความน่าเชื่อถือของช่าง ผู้รับเหมา สถาปนิก วิศวกร และทุกสายงานอาชีพด้านการก่อสร้างได้มาเจอกัน เกิดการแลกเปลี่ยนข้อมูล ความรู้ ช่วยเหลือเกื้อกูลกันในด้านต่างๆ มากขึ้น ที่สำคํญเวปไซด์แห่งนี้ จะช่วยสร้างตัวตนที่ชัดเจนขึ้น สามารถลงรูปโชว์ผลงานที่ผ่านมาได้ มีระบบเรทติ้งจากผู้ใช้งานจริง เพื่อให้เกิดสำนึกความรับผิดชอบต่อตัวงานโดยเจ้าของบ้านสามารถเข้ามาดูรายละเอียด Profile และผลงานที่สนใจได้ด้วยตนเอง โดยอาจเลือกผู้รับเหมาในพื้นที่ใกล้บ้านได้อีกด้วย

ขั้นตอนใดบ้างที่คนทั่วไปสุ่มเสี่ยงจะโดน "ความไม่ซือสัตย์" ทำร้ายมากที่สุด เมื่อสร้างบ้าน

           ทุกขั้นตอนต้องมีการดูแล และควบคุมคุณภาพอย่างทั่วถึง ตั้งแต่การเริ่มออกแบบ จนสร้างเสร็จออกมาเป็นหลัง ซึ่งผลของความไม่ซื่อสัตย์จะอยู่ในรูปแบบของการล็อคสเป็ค แบนด์วัสดุที่เลือกใช้ของผู้ออกแบบ การฮั้วการประกวดราคากับผู้รับเหมา การหมกเม็ด การสับงานแบบไม่มีคุณภาพของผู้รับเหมา ไม่มีการควบคุมคุณภาพของงาน การลดปริมาณของ ลดสเป็ควัสดุ ซึ่งตรงนี้สามารถเกิดได้ทุกขั้นตอน อย่างไรก็ตามหากเกิดการลดสเป็ควัสดุ หรือลดของในขั้นตอนของงานฐานรากและโครงสร้าง ผมมองว่าน่าจะทำให้เกิดผลกระทบมากที่สุด เพราะโครงสร้างและฐานราก ถือเป็นพื้นฐานหลักของความแข็งแรงและอายุการใช้งานของตัวบ้าน ซึ่งสาเหตุดังกล่าวอาจส่งผลให้บ้านทรุด แตกร้าว และไม่สามารถแก้ไขปัญหาให้หายขาดได้อย่างถาวรอีกด้วย

เป้าหมายที่คาดหวังกับทุกช่องทางที่กำลังทำอยู่

         ผมหวังว่าทั้งเพจผู้รับเหมาผู้ซื่อสัตย์และเว็บไซด์ จะเป็นพื้นที่ของการรวมกลุ่ม เป็นสังคมการก่อสร้างทางออนไลน์ที่ดีที่สุด ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อทุกคนที่เกี่ยวข้องบ้านบ้าน เจ้าของบ้าน เจ้าของโครงการ ก็สามารถเข้มาดูข้อมูล เห็นผลงานที่ผ่านมาของช่าง สถาปนิก และผู้ชำนาญการด้านต่างๆได้ ทั้งยังสามารถให้คะแนน Rating ความพึงพอใจหลังจากได้รับบริการจากผู้เชี่ยวชาญนั้นๆ ในส่วนของช่างผู้ชำนาญการ ผู้รับเหมางานต่างๆเอง ก็จะเกิดการพัฒนา ปรับปรุงผลงาน ให้มีคุณภาพ สร้างตัวตนและความน่าเชื่อถือ เพื่อสร้างงาน สร้างรายได้ บนเว็บไซด์แห่งนี้ นอกจากนี้ เรายังมีการรวมกลุ่มกันแบ่งปัน แชร์ข้อมูล ความรู้ ข้อเท็จจริงระหว่างกันที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับหน้างานจริง และยกระดับคุณภาพ ความน่าเชื่อถือของสังคมการก่อสร้างอย่างยั่งยืนได้อีกด้วย 

ท้ายสุดนี้ อยากจะฝากอะไรถึงคนที่กำลังจะมีบ้านเป็นของตัวเองบ้าง?

          หากใครกำลังคิดจะสร้างบ้าน หรือซื้อบ้านเป็นของตนเอง ควรหาข้อมูล ทำการบ้านล่วงหน้า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องฟังก์ชั่นการใช้งาน แปลนบ้าน ไอเดีย แบบบ้าน และการแต่งบ้าน ทำความเข้าใจในรายละเอียดของตัวงาน และขั้นตอนการก่อสร้าง ข้อดี-ข้อเสียของวัสดุก่อสร้างแต่ละประเภท ซึ่งปัจจุบันนี้โลกออนไลน์ได้เข้ามามีส่วนในชีวิตประจำวันมากขึ้น จึงเป็นเรื่องง่ายที่เราสามารถหาข้อมูลเบื้องต้น หาแบบบ้านที่ชอบ จากอินเตอร์เน็ตได้อย่างสะดวกสบาย และรวดเร็ว อย่างไรก็ดี ปัจจัยหลักที่จะช่วยให้การสร้างบ้านมีความแข็งแรง สวยงาม ราบรื่น เสร็จตามกำหนด และงบไม่บานปลาย คือ การหาผู้รับเหมาที่ดี มีคุณภาพ และไว้ใจได้ ดังนั้นเราจึงควรให้ความสำคัญกับเรื่องขั้นตอน และแนวทางคัดเลือกผู้รับเหมาก่อสร้าง ซึ่งจะช่างลดปัญหา และขั้นตอนการทำงานที่ซับซ้อน ลดต้นทุนการก่อสร้าง และลดโอกาสผู้รับเหมาทิ้งงานลงได้อย่างมาก

          ท้ายสุดนี้ ผมขอฝากเวปไซด์ vLIVINGPRO ที่รวมทุกสายงานอาชีพด้านการก่อสร้างที่ดีที่สุด ที่จะช่วยคุณเพิ่มโอกาสในการค้นหาผู้รับเหมา ช่าง สถาปนิก รวมถึงร้านค้าต่างๆที่มีคุณภาพ ลดโอกาสเสี่ยงจากการถูกโกง ถูกทิ้งงานต่างๆลงได้ครับ

vLIVING PRO
สนใจติดต่อโฆษณาเว็บไซต์กับ vLIVING PRO โทร.02-101-9493 #16, 082-359-3382
บทความอื่นที่น่าสนใจ
  • บ้าน จะสวยงามได้ ก็มีองค์ประกอบหลายๆอย่างรวมๆกันไป โซฟาก็ถือเป็นหัวใจหลักในการตกแต่ง บ้านจะสวยหรือไม่สวยโซฟาก็มีส่วยเลยทีเดียว มาลองดูไอเดียโซฟาหลายๆแบบเพื่อนำไปแต่งบ้านที่เรารักกัน

     

     ขอบคุณรูปภาพสวยๆจาก pinterest

  •  

    เรื่องการโดนผู้รับเหมาทิ้งงาน เป็นปัญหาเรื่องการก่อสร้างที่พบเจอกันเป็นประจำ

    ไม่ว่าจะเป็นการก่อสร้างบ้านขนาดเล็ก จนถึงอาคารขนาดใหญ่ก็มีปัญหาเรื่องการทิ้งงาน

    จนต้องมีการเปลี่ยนผู้รับเหมาหลายราย กว่าจะทำงานก่อสร้างให้แล้วเสร็จได้

     

    ซึ่งตรงนี้ประเด็นและสาเหตุการทิ้งงานของผู้รับเหมา โดยส่วนมากมักจะมีปัญหา

    เรื่องการบริหารจัดการตัวเองไม่ว่าจะเป็นการทำงาน หรือเป็นเรื่องส่วนตัวเช่นเรื่องการเงิน

    ทำให้หมุนเงินไม่ทัน จึงต้องหาวิธีรับงานใหม่ เพื่อเบิกงวดงานของที่ใหม่มาใช้จ่าย

    เมื่อเบิกงวดงานของที่ใหม่ไปแล้ว ทำให้ต้องไปเริ่มงานที่ใหม่ และไม่สามารถ

    กลับมาทำงานที่เดิมต่อได้จึงเป็นปัญหาทิ้งงานเกิดขึ้น 

     

    นอกจากนี้ ปัญหาการสื่อสาร ระหว่างช่างกับเจ้าของบ้านก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่ง

    ที่ทำให้ช่าง ผู้รับเหมาทิ้งงาน เช่น เมือรับคำสั่งแล้วทำงานออกมาแล้ว

    ไม่ตรงตามความต้องการ หรือไม่ได้ดั่งใจเจ้าของบ้าน ทำให้ต้องมีการเก็บแก้งานบ่อยๆ

    เมื่อนานเข้า จึงขาดทุน ทำให้ต้องทิ้งงาน

     

    บทความนี้ vLIVING PRO จะมาพูดคุยกัน ถึงกรณีการทิ้งงานว่า

    ถ้าเกิดการทิ้งงานขึ้นแล้วจะเคลียร์ค่าใช้จ่ายยังไง และเราควรทำสัญญา

    ระบุงวดงานเบิกจ่ายให้ชัดเจน ดังต่อไปนี้ 

     

     

     

     

     1.ต้องจ่ายเงินในส่วนที่ผู้รับเหมาทำงานไปแล้วหรือไม่?

    หากช่างทำงานไม่สำเร็จ หรือทิ้งงานไปกลางคัน โดยที่ปริมาณงานยังเหลืออีกเยอะ หากช่างเบิกงวดงาน

    ไปแล้วปิดมือถือหรือติดต่อยาก ลักษณะนี้ถือว่าเป็นการทิ้งงาน  ผู้ว่าจ้างอาจจะต้องพิจารณาไม่จ่ายเงิน

    ในส่วนที่ทำไป แล้วเพราะ เงินที่เหลือ จะต้องนำไปจ้างช่าง หรือผู้รับเหมาที่ว่าจ้างเข้ามาใหม่

    เพื่อเข้ามาต่องาน เก็บแก้งานเดิม ซึ่งช่างใหม่อาจจะคิดเงินราคาแพงกว่าที่ควรจะเป็น

    เพราะไม่รู้ว่าของเดิมได้ทำไว้แย่แค่ไหน จึงทำให้มีค่าใช้จ่ายในการเก็บงานมากขึ้น

    ในส่วนของการเผื่อค่าเก็บแก้งาน

     

    2.การจ้างงานช่างหรือผู้รับเหมา

    ในการจ้างงาน ควรทำสัญญาให้ชัดเจน ว่าเบิกงวดงานได้ตอนไหน

    แต่หากเราไม่มีเอกสารสัญญาที่จะระบุได้ชัดเจนเรื่องงวดงาน

    อาจจะทำให้ช่าง มีการเบิกเงินเกินกว่าปริมาณงานที่ทำไปแล้วจริง

    พอเจ้าของบ้านมารู้ตัวอีกที ก็พบว่าผู้รับเหมาเบิกเงินส่วนใหญ่ไปเกือบหมดแล้ว

    แต่งานยังไม่ไปถึงไหนเลย

     

    ในทางกลับกัน หากถึงงวดงานที่กำหนดแล้วเจ้าของบ้านดึงเงิน ไม่จ่าย

    และสัญญามีระบุว่า ผู้รับเหมามีสิทธิ์ยกเลิกสัญญาได้  ทางผู้รับเหมาก็อาจจะ

    พิจารณายกเลิกสัญญา และฟ้องเรียกร้องค่าเสียหายต่อศาล

    ในส่วนงานที่ได้ทำไปแล้ว ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้น ก็จะต้องมาไกล่เกลี่ย

    และสรุปกันว่า ทำงานไปมาก น้อยแค่ไหน แล้วจะต้องเคลียร์ค่าใช้จ่ายกันเท่าไหร่

     

     

    ข้อแนะนำเพิ่มเติม

     

    - ในการทำสัญญากับผู้รับเหมา ทางผู้ว่าจ้างควรจะขอเอกสารประกอบ

    การทำสัญญาจ้างงาน เช่น บัตรประชาชน ทะเบียนบ้านเดิม ไว้เป็นหลักฐานทุกครั้ง

    เพื่อใช้ในการอ้างอิง ซึ่งโดยทั่วไปช่างที่ไม่บริสุทธิ์ใจจะไม่ยอมให้หลักฐานประกอบ

    เพื่อแนบในสัญญา ดังนั้น หากผู้รับเหมาบ่ายเบี่ยงการให้เอกสารเหล่านี้

    ก็ไม่ควรทำการว่าจ้าง 

     

    - นอกจากนี้ เราไม่ควรเลือกผู้รับเหมาที่มีปัญหาการเงินตั้งแต่แรก

    เพราะตอนทำงานจริงก็มีโอกาสเกิดปัญหาหมุนเงินไม่ทันและอาจทิ้งงานได้

    หลักเกณฑ์ง่ายๆในการดูว่า ผู้รับเหมามีปัญหาทางการเงินหรือไม่

    เช่น ดูจากรถยนต์ที่ขับ ถ้าสภาพแย่มากๆ ก็เสียบ่อย แล้วไม่มีเงินซ่อม

    ก็อาจจะบ่งบอกว่า กำลังมีปัญหาการเงิน หรืออีกวิธีคือ สอบถามจากผู้ว่างจ้าง

    รายก่อนๆ ถึงเรื่องการเบิกจ่ายเงิน ของผู้รับเหมารายดังกล่าว ว่าที่ผ่านมา

    มีการเบิกล่วงหน้า ก่อนงวดงานที่ควรจะทำจ่ายได้ บ่อยหรือไม่ เป็นต้น

     

  • ปัจจุบันโคมไฟระย้ามีหลายแบบหลากสไตล์ การเลือกแบบให้เข้ากับสไตล์ของแต่ละห้อง จะช่วยให้ห้องดูดี สวยงาม มีสไตล์มากยิ่งขึ้น วันนี้เรามีไอเดียดีๆ ในการตกแต่งบ้านด้วยโคมไฟระย้า มาฝากคนรักบ้านกันค่ะ

     

     

    โคมไฟระย้า

             โคมไฟระย้ามีเพื่อเน้นส่วนของบ้านที่ต้องการโชว์ ให้มีความสวยงามยิ่งขึ้น ความสูงของโคมระย้าจากพื้นในกรณีที่แขวนในห้องทั่วไป ควรสูงประมาณ 1.95 - 2.10 ม.

     

    ห้องนั่งเล่น

                  โคมไฟระย้าควรอยู่บริเวณโต๊ะกลางเพื่อเป็นจุดเด่นหนึ่งของห้องนั่งเล่นและควรเลือกให้เหมาะกับสไตล์ของห้องที่เราตกแต่ง

     

    ห้องกินข้าว

         ติดเหนือโต๊ะกินข้าว 1 ชุด หรือ 2 ชุดก็ได้ ขึ้นอยู่กับความยาวไม่ควรแขวนโคมไฟสูงเหนือโต๊ะอาหารมากเกินไป 

     

    ห้องนอน

                        ถ้าอยากมีห้องที่ดูแตกต่างควรใช้โคมไฟติดเพดาน เป็นโคมไฟระย้า สิ่งที่ดีที่สุดควรเลือกแสงที่อ่อนๆ เพราะ เป็นการพักผ่อน

     

    ห้องน้ำ

           ควรติดความสูงให้พอดีและให้แสงสามารถส่องเห็นหน้าตอนส่องกระจกได้

     

    ห้องทำงาน   

                 โคมไฟระย้าสามารถแขวนได้กึ่งกลางห้องหรือเหนือโต๊ะทำงานก็ได้

     

    สไตล์โคมไฟระย้า หรือแชนเดอร์เลียร์ที่นิยมนำมาตกแต่ง มีดังนี้

                   เป็นรูปแบบดั่งเดิม เน้นความหรูหรา ตกแต่งด้วยเม็ดคริสตัลเมื่อกระทบกับแสงไฟ จะส่งประกายระยิบระยับ โครงหรือกิ่งก้านมักทำจากแก้ว หรือมีก้านทองเหลืองสลักลาย รวมถึงแชนเดอร์เลียร์แบบ Classic จะให้อารมณ์ที่เรียบ และเย็นกว่า

     

    แชนเดอร์เลียร์แบบ Contemporary 

                     มีความร่วมสมัยมากขึ้น ผสมผสานระหว่างแบบคลาสสิคกับแบบปัจจุบัน รูปทรงก็ค่อนมาทางเรียบๆ ไม่มีลวดลายซับซ้อนเท่ากับแบบ classic โครงหรือกิ่งก้านจะเป็นโลหะ หรือวัสดุธรรมชาติ

     

     

    แชนเดอร์เลียร์ Modern Classic

                    มีพื้นฐานมาจากแชนเดอร์เลียร์กลุ่ม classic เพิ่มเติมความทันสมัยด้วยวัสดุใหม่ๆ เช่น โครงหรือกิ่งก้านเป็นเหล็ก เน้นความรู้สึกเรียบง่าย อบอุ่น แต่เริ่มมีสีสันมากขึ้น รูปทรงยังคงความอ่อนช้อยงดงามแบบ classic

     

     

    แชนเดอร์เลียร์ Modern

                     เน้นความสวยงามแบบเรียบง่าย ไม่เหลือเค้าโครงแบบดั่งเดิม ตกแต่งด้วยดวงโคมน้อยชิ้นเน้นรูปทรงเรขาคณิต ไม่มีลวดลายห้อยระย้ามากนัก มีเส้นสายเรียบๆ ตรงๆ แต่อาจจะออกแนวย้อนยุคได้บ้าง เพื่อลดความแข็งกระด้าง และไม่ใช้เม็ดคริสตัล เหมาะกับบ้านสไตล์โมเดิร์นเป็นส่วนใหญ่

     

     

    โคมไฟระย้า เป็นทางเลือกหนึ่งที่ได้รับความนิยมในการนำมาจัดตกแต่ง ยังไงก็ลองนำไอเดียร์ต่างๆ เหล่านี้ไปประยุกต์ใช้ให้เหมาะกับการแต่งบ้านของทุกคนดูนะคะ

  •    การทำผนังห้องน้ำโดยทั่วไปที่มักพบเจอกันจะเป็นผนังก่ออิฐและฉาบปูน เนื่องจากเป็นผนังที่จะต้องมีการปูกระเบื้อง และต้องการความแข็งแรงในการยึดเกาะที่เพียงพอ อย่างไรก็ดีปัจจุบัน เริ่มมีวัสดุทดแทนการใช้ผนังก่ออิฐฉาบปูนกันมากขึ้น โดยการขึ้นเป็นโครงผนังเบาและกรุด้วยวัสดุประเภทไฟเบอร์ซีเมนต์ ซึ่งตรงนี้หลายๆคนอาจจะมีความกังวลเรื่องการรั่วซึม ตามรอยต่อของแผ่นสมาร์ทบอร์ดได้ วันนี้เราจะมาดูแชร์เทคนิคการขึ้นโครง พร้อมทำระบบกันซึม ของผนังเบา ก่อนปูกระเบื้องจริงให้ชมกัน

     

     

    ขั้นตอนการยิงผนังเบาทดแทนการก่ออิฐ

    1.ขึ้นโครงทุกระยะ 40 ซม.

    ในการขึ้นโครงคร่าวของผนังเบาควรให้มีระยะห่างในทุกๆ 40 ซม.เพื่อช่วยในการยิงแผ่นผนังสมาร์ทบอร์ดให้อยู่ในระหว่างกลางพอดี และช่วยในการยิงง่ายมากขึ้น

     

    2.ยิงกรุผนังด้วยแผ่นสมาร์ทบอร์ดหนา 12 มม. ขึ้นไป

    การที่ใช้แผ่นสมาร์ทบอร์ดที่มีขนาดหนา 12 มม. ขึ้นไป จะดีกว่าแผ่นบางเพราะป้องกันการแตกหักของแผ่น การเลือกที่มีความหนาก็จะช่วยให้ลดการสั่นสะเทือนของผนังได้ดียิ่งขึ้น

     

    3.ติดเทปกันซึมตามรอยต่อพื้นและผนัง

    ในขั้นตอนนี้ให้ทาน้ำยากันซึมที่บริเวณรอยต่อระหว่างแผ่นทั้งพื้นและผนัง เพื่อเป็นการรองพื้น ป้องกันโอกาสการรั่วซึมตามบริเวณขอบมุมห้องน้ำ หลังจากนั้นจึงเริ่มทำการแปะผ้าเทปทับกันซึมที่ทาลงไป แล้วจึงทาอะคริลิคกันซึมทับผ้าเทปอีกครั้ง

     

    4.ทาน้ำยากันซึมให้ทั่วทั้งพื้นและผนัง

    - โดยเริ่มจากลงน้ำยารองพื้นก่อน 1 เที่ยว

    - ทาอะคริลิคกันซึมในแนวนอนควรทิ้งให้แห้ง 4 - 6 ชม.

    - ทาอะคริลิคกันซึมเที่ยวที่สองในแนวตั้ง โดยเมื่อทาเสร็จแล้วให้มีความหนารวมของชั้นกันซึมทั้งหมดไม่ต่ำกว่า 1 มม.

     

     

    5.ปูกระเบื้องได้ตามปกติ

    หลังจากทาอะคริลิคกันซึมครบตามขั้นตอนแล้วควรปล่อยทิ้งไว้ให้แห้งประมาณ 48 ชม. จึงเริ่มปูกระเบื้องได้ตามปกติ

    ลองนำเทคนี้ไปใช้กันดูนะครับเพื่อป้องกันห้องน้ำไม่ให้รั่วซึมในระยะยาว

  • มาดูวิธีที่ช่วยประหยัดพลังงานในบ้านกันดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง ที่จะช่วยให้คุณไม่สิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายจนเกินไป

     

     

    1.ปิดไฟเมื่อไม่ใช้งาน

    การปิดไฟเมื่อไม่ได้ใช้งานแล้วจะเป็นการช่วยประหยัดไฟได้เยอะแบบไม่น่าเชื่อ

     

     

    2.การใช้เครื่องปรับอากาศ

    ควรเปิดไว้ที่อุณหภูมิ 27-28 องศา จะช่วยประหยัดพลังงาน หากอากาศร้อนจนเกินไปให้เปิดพัดลมเพื่อระบายอากาศจะดีกว่าการเร่งแอร์ให้ต่ำที่สุดจะสิ้นเปลืองมาก

     

    3.หากฝนตก

    งดเปิดแอร์แล้วมาเปิดพัดลมเพื่อช่วยระบายอากาศได้

     

    4.การซักผ้า

    ถ้ามีผ้าไม่เยอะมาก หรือไม่กี่ชิ้น ควรเลือกการซักมือดีกว่าเพราะการใช้เครื่องกับผ้าจำนวนน้อยๆจะทำให้สิ้นเปลืองจนเกินไป

     

    5.คอมพิวเตอร์

    ปิดหน้าจอคอมพิวเตอร์เมื่อไม่ได้ใช้งาน

     

    6.ติดผ้าม่านเพื่อกันความร้อน

    หากบ้านไหนเป็นกระจกรอบบ้าน ควรจะติดผ้าม่านเพื่อป้องกันแสงแดดในตอนกลางวันที่จะเข้ามาไม่ทำให้บ้านร้อนหรือเครื่องปรับอากาศไม่ต้องทำงานหนักเกินไป

     

    7.ตู้เย็น

    ไม่ควรที่จะเปิดตู้เย็นทิ้งไว้นานๆหรือเอาของที่ร้อนอยู่มาใส่ตู้เย็นเลยจะเป็นการทำให้ตู้เย็นทำงานหนัก

     

    8.รีดผ้า

    ควรรีดผ้าเยอะๆและไม่ควรพรมน้ำจนชุ่มเกินไป เพราะจะทำให้เป็นการใช้ความร้อนเปลืองค่าไฟมากเกินไป

    9.ถอดปลั๊กไฟ

    ถอดปลั๊กทันทีหากไม่ได้ใช้งานเพราะช่วยประหยัดไฟ และเป็นการป้องกันไฟฟ้าลัดวงจรด้วย

    10.ตรวจเช็คเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านเป็นประจำ

    หากมีฝุ่นเกาะหนาจะทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าทำงานหนักมากเกินไป

     

    11.ปลูกต้นไม้รอบบ้าน

    การปลูกต้นไม้จะเป็นการช่วยให้บ้านร่มรื่น ไม่ให้มีแสงแดดเข้ามามากไป และทำให้บ้านไม่ร้อนอีกด้วย