เทคนิคการเลือกที่นอนให้หลับสบายทุกคืน
By vLIVING PRO21 กุมภาพันธ์ 2561 10:56:48

การเลือกที่นอนให้เหมาะสมกับการพักผ่อนเป็นสิ่งสำคัญ เพราะ 1 ใน 3 ของแต่ละวันคือช่วงเวลาของการนอนหลับพักผ่อน ดังนั้นการมีที่นอนที่ดีนอกจากจะช่วยให้นอนหลับสบายตลอดทั้งคืนแล้ว ยังช่วยให้เรามีสุขภาพร่างกายที่ดีอีกด้วย แต่ถ้าหากไม่รู้ว่าควรเลือกที่นอนอย่างไร? วันนี้เรามีเทคนิคง่ายๆ มาฝากค่ะ

 

 

 

 

 

 

 

  

 

ลองนำข้อควรรู้ในการเลือกซื้อที่นอนเหล่านี้ไปใช้กันดูนะคะ เพราะเราต้องใช้งานมันทุกวัน ดังนั้นการเลือกสิ่งที่ดี มีคุณภาพถือว่าเป็นการลงทุนที่ถูกต้อง แถมยังมีผลระยะในยาวต่อสุขภาพการนอนของเราอีกด้วยค่ะ

vLIVING PRO
สนใจติดต่อโฆษณาเว็บไซต์กับ vLIVING PRO โทร.02-101-9493 #16, 082-359-3382
บทความอื่นที่น่าสนใจ
  • ปัจจุบันโคมไฟระย้ามีหลายแบบหลากสไตล์ การเลือกแบบให้เข้ากับสไตล์ของแต่ละห้อง จะช่วยให้ห้องดูดี สวยงาม มีสไตล์มากยิ่งขึ้น วันนี้เรามีไอเดียดีๆ ในการตกแต่งบ้านด้วยโคมไฟระย้า มาฝากคนรักบ้านกันค่ะ

     

     

    โคมไฟระย้า

             โคมไฟระย้ามีเพื่อเน้นส่วนของบ้านที่ต้องการโชว์ ให้มีความสวยงามยิ่งขึ้น ความสูงของโคมระย้าจากพื้นในกรณีที่แขวนในห้องทั่วไป ควรสูงประมาณ 1.95 - 2.10 ม.

     

    ห้องนั่งเล่น

                  โคมไฟระย้าควรอยู่บริเวณโต๊ะกลางเพื่อเป็นจุดเด่นหนึ่งของห้องนั่งเล่นและควรเลือกให้เหมาะกับสไตล์ของห้องที่เราตกแต่ง

     

    ห้องกินข้าว

         ติดเหนือโต๊ะกินข้าว 1 ชุด หรือ 2 ชุดก็ได้ ขึ้นอยู่กับความยาวไม่ควรแขวนโคมไฟสูงเหนือโต๊ะอาหารมากเกินไป 

     

    ห้องนอน

                        ถ้าอยากมีห้องที่ดูแตกต่างควรใช้โคมไฟติดเพดาน เป็นโคมไฟระย้า สิ่งที่ดีที่สุดควรเลือกแสงที่อ่อนๆ เพราะ เป็นการพักผ่อน

     

    ห้องน้ำ

           ควรติดความสูงให้พอดีและให้แสงสามารถส่องเห็นหน้าตอนส่องกระจกได้

     

    ห้องทำงาน   

                 โคมไฟระย้าสามารถแขวนได้กึ่งกลางห้องหรือเหนือโต๊ะทำงานก็ได้

     

    สไตล์โคมไฟระย้า หรือแชนเดอร์เลียร์ที่นิยมนำมาตกแต่ง มีดังนี้

                   เป็นรูปแบบดั่งเดิม เน้นความหรูหรา ตกแต่งด้วยเม็ดคริสตัลเมื่อกระทบกับแสงไฟ จะส่งประกายระยิบระยับ โครงหรือกิ่งก้านมักทำจากแก้ว หรือมีก้านทองเหลืองสลักลาย รวมถึงแชนเดอร์เลียร์แบบ Classic จะให้อารมณ์ที่เรียบ และเย็นกว่า

     

    แชนเดอร์เลียร์แบบ Contemporary 

                     มีความร่วมสมัยมากขึ้น ผสมผสานระหว่างแบบคลาสสิคกับแบบปัจจุบัน รูปทรงก็ค่อนมาทางเรียบๆ ไม่มีลวดลายซับซ้อนเท่ากับแบบ classic โครงหรือกิ่งก้านจะเป็นโลหะ หรือวัสดุธรรมชาติ

     

     

    แชนเดอร์เลียร์ Modern Classic

                    มีพื้นฐานมาจากแชนเดอร์เลียร์กลุ่ม classic เพิ่มเติมความทันสมัยด้วยวัสดุใหม่ๆ เช่น โครงหรือกิ่งก้านเป็นเหล็ก เน้นความรู้สึกเรียบง่าย อบอุ่น แต่เริ่มมีสีสันมากขึ้น รูปทรงยังคงความอ่อนช้อยงดงามแบบ classic

     

     

    แชนเดอร์เลียร์ Modern

                     เน้นความสวยงามแบบเรียบง่าย ไม่เหลือเค้าโครงแบบดั่งเดิม ตกแต่งด้วยดวงโคมน้อยชิ้นเน้นรูปทรงเรขาคณิต ไม่มีลวดลายห้อยระย้ามากนัก มีเส้นสายเรียบๆ ตรงๆ แต่อาจจะออกแนวย้อนยุคได้บ้าง เพื่อลดความแข็งกระด้าง และไม่ใช้เม็ดคริสตัล เหมาะกับบ้านสไตล์โมเดิร์นเป็นส่วนใหญ่

     

     

    โคมไฟระย้า เป็นทางเลือกหนึ่งที่ได้รับความนิยมในการนำมาจัดตกแต่ง ยังไงก็ลองนำไอเดียร์ต่างๆ เหล่านี้ไปประยุกต์ใช้ให้เหมาะกับการแต่งบ้านของทุกคนดูนะคะ

  • ถ้าตามขอบมุมต่างๆของตัวบ้านไม่เป็นระยะตั้งฉาก อาจจะทำให้บ้าน หรือตามขอบประตูหน้าต่างไม่ได้ระดับที่ดีพอ อาจส่งผล กระทบต่างๆตามมาในภายหลังได้ การจับเซี้ยมจึงมีส่วนสำคัญที่จะทำให้ขอบมุมต่างๆของบ้านได้ระดับที่ดี ขั้นตอนเป็นอย่างไรบ้างมาดูกันค่ะ

     

     

     

    จับเซี้ยม หมายถึง การทำให้ขอบหรือมุมต่างๆ ของตัวบ้านเป็นระยะตั้งฉาก ก่อนที่จะฉาบปูน เช่น ขอบประตู-หน้าต่าง มุมเสา มุมห้อง เป็นต้น โดยช่างจะปาดปูนที่ชนกันเข้ากับมุมทั้ง 2 ด้าน ตลอดแนวความสูงหรือความยาว ให้ได้ระดับที่พอดี หรือมีอีกวิธีหนึ่ง คือ ใช้เซี้ยมสำเร็จรูป ที่ทำมาจากเหล็ก หรือพลาสติกวางลงบนปูนที่ปาดไว้ จากนั้นปาดปูนทับทั้ง 2 ด้านของผนังอีกที ให้ความหนาปูนเสมอกับแนวสันของเซี้ยมสำเร็จรูป ซึ่งถือว่าเป็นวิธีที่ง่ายและทำได้รวดเร็ว

     

     

     

     

              ดังนั้น การจับเซี้ยม จึงถือว่าเป็นขั้นตอนหนึ่งที่สำคัญสำหรับการก่อสร้างอาคารบ้านเรือน เพื่อให้ได้บ้านที่มีระยะตั้งฉาก และได้ระดับที่พอดี 

     

  • " มด " เป็นสัตว์ตัวจิ๋วแต่ปัญหาไม่จิ๋วเหมือนตัว มดสร้างความรำคาญให้แก่เจ้าของบ้านมากมาย

    ไม่ว่าจะเป็น มาตอมอาหาร หรือมากัด ให้กวนใจ วันนี้เรามี 10 เทคนิค ในการกำจัดมดมาฝากกันครับ

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

  • เชือกหรือเส้นด้ายสามารถนำมาทำ D.I.Y สำหรับตกแต่งบ้านได้หลากหลาย และนี่คืออีก 1 ไอเดียในการนำเชือกมาทำเป็นโคมไฟสุดสวย และไม่ซ้ำใคร ซึ่งขั้นตอนการทำก็แสนจะง่ายดาย สามารถทำเองได้ แถมยังประหยัดงบประมาณอีกต่างหาก เรามาดูภาพตัวอย่างของโคมไฟเชือกกันดีกว่าว่ามีแบบไหน และขั้นตอนการทำเป็นยังไงบ้าง?

      

    อุปกรณ์สำหรับการทำโคมไฟจากเส้นด้าย หรือเชือกมีดังนี้

    1.   เชือกป่าน หรือเส้นด้าย (สีตามใจชอบ)

    2.   กาวลาเท็กซ์

    3.   ชามหรือกะละมัง

    4.   น้ำเปล่า

    5.   กรรไกร

    6.   ลูกบอลยาง หรือลูกโป่งขนาดต่างๆ ตามต้องการที่จะใช้ทำโคมไฟ

    7.   เข็ม หรือ ไม้ลูกชิ้นปลายแหลม

    8.   สายไฟปาร์ตี้ หรือชุดหลอดไฟ

    9.   ปากกาเมจิก

    10. เข็มสำหรับปล่อยลมลูกบอล

     

    วิธีการทำ

    1. ใช้ปากกาเมจิกวาดช่องว่างให้ได้ขนาดที่พอดี เพื่อที่จะนำหลอดไฟใส่เข้าไปได้ 

     

     

    2. เป่าลูกบอลยาง หรือลูกโป่งที่เตรียมไว้ให้มีขนาดพอดีกับโคมไฟที่เราต้องการ

     

    3. ใส่น้ำเปล่าลงไปในชามที่เตรียมไว้ เทกาวตามลงไปในชาม แล้วคนให้เข้ากัน

     

     

    4. เอาเชือกหรือด้ายที่เตรียมไว้ลงไปชุบในน้ำกาว

      

     

    5. แล้วเอาเชือก หรือด้ายมาพันรอบลูกโป่ง ทับไปทับมาเหมือนตาข่ายหรือรังนกจนเป็นลูกกลมๆเต็มลูกโป่ง หรือลูกบอลยาง

      

     

    6. ใช้ไดร์เป่าผมเป่า หรือทิ้งไว้จนกาวแห้ง

      

     

    7. ใช้เข็มเจาะลูกโป่งให้แตก หรือปล่อยลมออกจากลูกบอลยาง แล้วเอาลูกโปร่งออกมา

      

     

     

    8. เอาโคมไฟไปใส่เข้าไปในโคมเชือกหรือด้าย แล้วนำไปติดตั้งตามจุดต่างๆของบ้านได้ตามใจชอบเลยค่ะ 

        

       

     

    ลองนำเทคนิคต่างๆ เหล่านี้ไปปรับใช้ และลองทำกันดูนะคะ สามารถทำได้ทั้งโคมไฟเส้นด้ายแบบเล็กๆ และโคมไฟขนาดใหญ่ที่ทำจากเชือก นับเป็นของแต่งบ้านอีกชิ้นที่สวยงาม และให้ความโรแมนติกไม่เบาเลยค่ะ 

     

    ของคุณภาพประกอบจาก pinterest

  • ทำความสะอาดเป็นสิ่งที่น่าเบื่อมากก...วันนี้ผมมีเทคนิคเล็กๆมาฝากเพื่อนๆเพื่อให้การทำความสะอาดง่ายขึ้นครับ