ลักษณะของบันไดบ้านที่ดี ควรเป็นอย่างไรบ้างนะ?
By vLIVING PRO20 กุมภาพันธ์ 2561 15:51:24

บันได ถือเป็นส่วนประกอบหนึ่งที่สำคัญของบ้าน ซึ่งบ้านเกือบทุกหลังจำเป็นต้องมีบันได โดยสิ่งที่ต้องคำนึงถึงคือขนาดของลูกตั้ง ลูกนอนที่เหมาะสม เพื่อให้สมาชิกทุกคนภายในบ้านใช้บันไดได้อย่างสบายเท้า ดังนั้นบันไดที่ดี จึงควรมีลักษณะ ดังนี้

 

 

 

 

บันได ถือเป็นส่วนประกอบหนึ่งที่สำคัญของบ้าน ซึ่งบ้านเกือบทุกหลังจำเป็นต้องมีบันได โดยสิ่งที่ต้องคำนึงถึงคือขนาดของลูกตั้ง ลูกนอนที่เหมาะสม เพื่อให้สมาชิกทุกคนภายในบ้านใช้บันไดได้อย่างสบายเท้า ดังนั้นบันไดที่ดี จึงควรมีลักษณะ ดังนี้

 

  1. ลักษณะและขนาดของลูกตั้ง และลูกนอนที่ดี

ลูกตั้ง คือ ระยะตั้งของบันไดแต่ละขั้น

ลูกนอน คือ ระยะราบที่ใช้เดินเหยียบบันไดแต่ละขั้น

สูตรการคำนวณลูกตั้งลูกนอนบันได คือ ลูกตั้ง + ลูกนอน = 45

ตัวอย่างการคำนวณ ลูกตั้งลูกนอน  ลูกตั้ง + ลูกนอน = ผลรวม   เช่น     18+ 27 = 45  เป็นต้น

 

 

ตัวอย่างบันไดที่เดินสบาย

ดังนั้น บันไดที่เดินแล้วสบายเท้า ลูกตั้ง จะอยู่ที่ 17 – 18 เซนติเมตร ส่วนลูกนอน จะอยู่ที่ 27 – 28 เซนติเมตร 

ตามกฎหมายระบุไว้ว่า ลูกตั้งต้องไม่เกิน 20 เซนติเมตร ส่วนลูกนอนต้องกว้างไม่น้อยกว่า 22 เซนติเมตร

(เพราะถ้าความกว้างของลูกนอนน้อยเกินไป จะทำให้เหยียบได้ไม่ถนัดเท้า)

 

  1. ความสูงของช่วงบันได

 

ในกรณีที่ความสูงระหว่างชั้นไม่เกิน 3 เมตร สามารถใช้บันได ช่วงเดียวได้เลย

แต่ถ้าความสูงระหว่างชั้นเกิน 3 เมตร ควรแบ่งช่วงบันได

 

  1. ชานพัก

  

มีไว้เพื่อแบ่งช่วงบันได และความยาวของชานพัก ต้องไม่น้อยกว่าความกว้างของบันได

รวมถึง ระยะดิ่งจากขั้นบันได หรือชานพัก ถึงเพดานเหนือหัว ต้องสูงไม่น้อยกว่า 1.90 เมตร

 

 

บันไดบ้านจะสวยมากน้อยแค่ไหนไม่สำคัญ สิ่งสำคัญคือ การมีบันไดที่ได้สัดส่วนตามมาตรฐาน ใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย เหมาะสม และปลอดภัยกับทุกคนในครอบครัวเป็นอย่างดี 

 

ขอคุณภาพประกอบจาก Pinterest

vLIVING PRO
สนใจติดต่อโฆษณาเว็บไซต์กับ vLIVING PRO โทร.02-101-9493 #16, 082-359-3382
บทความอื่นที่น่าสนใจ
  • อุปกรณ์บานพับมีหลายแบบให้เลือกในท้องตลาด วันนี้ผมมีตัวบานพับ บู๊ท มาแนะนำให้เพื่อนๆบางคนที่อาจยังไม่รู้จักมากฝากกันครับ

     

     

     

     

     

     

  • เชือกหรือเส้นด้ายสามารถนำมาทำ D.I.Y สำหรับตกแต่งบ้านได้หลากหลาย และนี่คืออีก 1 ไอเดียในการนำเชือกมาทำเป็นโคมไฟสุดสวย และไม่ซ้ำใคร ซึ่งขั้นตอนการทำก็แสนจะง่ายดาย สามารถทำเองได้ แถมยังประหยัดงบประมาณอีกต่างหาก เรามาดูภาพตัวอย่างของโคมไฟเชือกกันดีกว่าว่ามีแบบไหน และขั้นตอนการทำเป็นยังไงบ้าง?

      

    อุปกรณ์สำหรับการทำโคมไฟจากเส้นด้าย หรือเชือกมีดังนี้

    1.   เชือกป่าน หรือเส้นด้าย (สีตามใจชอบ)

    2.   กาวลาเท็กซ์

    3.   ชามหรือกะละมัง

    4.   น้ำเปล่า

    5.   กรรไกร

    6.   ลูกบอลยาง หรือลูกโป่งขนาดต่างๆ ตามต้องการที่จะใช้ทำโคมไฟ

    7.   เข็ม หรือ ไม้ลูกชิ้นปลายแหลม

    8.   สายไฟปาร์ตี้ หรือชุดหลอดไฟ

    9.   ปากกาเมจิก

    10. เข็มสำหรับปล่อยลมลูกบอล

     

    วิธีการทำ

    1. ใช้ปากกาเมจิกวาดช่องว่างให้ได้ขนาดที่พอดี เพื่อที่จะนำหลอดไฟใส่เข้าไปได้ 

     

     

    2. เป่าลูกบอลยาง หรือลูกโป่งที่เตรียมไว้ให้มีขนาดพอดีกับโคมไฟที่เราต้องการ

     

    3. ใส่น้ำเปล่าลงไปในชามที่เตรียมไว้ เทกาวตามลงไปในชาม แล้วคนให้เข้ากัน

     

     

    4. เอาเชือกหรือด้ายที่เตรียมไว้ลงไปชุบในน้ำกาว

      

     

    5. แล้วเอาเชือก หรือด้ายมาพันรอบลูกโป่ง ทับไปทับมาเหมือนตาข่ายหรือรังนกจนเป็นลูกกลมๆเต็มลูกโป่ง หรือลูกบอลยาง

      

     

    6. ใช้ไดร์เป่าผมเป่า หรือทิ้งไว้จนกาวแห้ง

      

     

    7. ใช้เข็มเจาะลูกโป่งให้แตก หรือปล่อยลมออกจากลูกบอลยาง แล้วเอาลูกโปร่งออกมา

      

     

     

    8. เอาโคมไฟไปใส่เข้าไปในโคมเชือกหรือด้าย แล้วนำไปติดตั้งตามจุดต่างๆของบ้านได้ตามใจชอบเลยค่ะ 

        

       

     

    ลองนำเทคนิคต่างๆ เหล่านี้ไปปรับใช้ และลองทำกันดูนะคะ สามารถทำได้ทั้งโคมไฟเส้นด้ายแบบเล็กๆ และโคมไฟขนาดใหญ่ที่ทำจากเชือก นับเป็นของแต่งบ้านอีกชิ้นที่สวยงาม และให้ความโรแมนติกไม่เบาเลยค่ะ 

     

    ของคุณภาพประกอบจาก pinterest

  • ตามหลักฮวงจุ้ยนั้น โครงสร้างของบ้าน เช่น เสา คาน หรือเพดาน เป็นต้น ถือว่ามีความสำคัญมาก บ้านควรมีรูปทรงที่ดี และควรเลือกสีของหลังคาให้เข้ากับสมาชิกในบ้าน รวมถึงการเลือกรูปทรงของหลังคาที่เหมาะสมด้วย ดังนี้

     

    1. รูปทรงของบ้านที่ดี ควรมีลักษณะเป็นตอนลึก หรือรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ซึ่งถือว่าเป็นฮวงจุ้ยที่ดี

     

     

     

        2.รูปทรงของหลังคา มีดังนี้

     

     

    • หลังคาทรงจั่ว เช่น บ้านทรงไทย หลังคาจะเทออกทั้ง 2 ข้าง ซึ่งหลังคาที่เทออกด้านข้างทั้ง 2 ด้านนั้น จะทำให้กระแสชี่ไหลออกจากด้านข้างหมด

     

     

     

    • หลังคาทรงปั้นหยา ช่วยป้องกันแดด และฝนได้ทุกทาง ทำให้ตัวบ้านไม่ปะทะกับลม แดด และฝนมากเกินไป ด้านเฉียงทั้ง 4 ด้านของหลังคา ทางฮวงจุ้ยถือว่าดีมาก เพราะกระแสชี่สามารถไหลได้รอบบ้าน ซึ่งหมายถึงทรัพย์สิน เงินทองไหลเข้าบ้าน

     

     

     

    • หลังคาแบบโค้ง หรือตัดสี่เหลี่ยม ส่วนใหญ่จะเป็นตึกแถว หรือบ้านที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ แต่ไม่สามารถเก็บพลังชี่ได้ และเก็บทรัพย์ไม่อยู่

     

     

     

    • หลังคาแบบ 2 จั่ว ไม่เป็นที่นิยม เพราะกระแสชี่จะไหลชนกันเอง ระหว่างหลังคาทรงจั่วทั้ง 2 หลัง ส่งผลทำให้คนในบ้านแตกแยก ไม่ลงรอยกัน ถ้าเป็นเรือนหอ อาจส่งผลต่อชีวิตคู่ได้ แต่ในกรณีที่จำเป็นต้องทำหลังคาทรง 2 จั่ว ควรทำให้หลังคาไม่เท่ากัน เพื่อกำหนดฐานะของเจ้าของบ้านให้ชัดเจน และเจ้าของบ้านควรอยู่บ้านหลังที่มีหลังคาจั่วใหญ่ที่สุด ส่วนหลังคาจั่วเล็ก เป็นตำแหน่งของบริวาร

     

     

    ควรใช้รูปทรงของหลังคาให้เข้ากับธาตุของบ้าน และเจ้าของบ้านด้วย โดยปรับให้มีความสมดุล และเหมาะสมกัน ดังนี้

     

    สีประจำตามปีนักษัตร

     

     

     

    สีของหลังคาที่เหมาะสมกับวันเกิด มีดังนี้

    • วันอาทิตย์ เหมาะกับหลังคาสีแดงเลือดหมู และสีทองเข้ม ช่วยเสริมอำนาจ บารมี ธุรกิจการค้าขายดี ร่ำรวย
    • วันจันทร์ เหมาะกับหลังคาสีฟ้าอ่อน หรือสีฟ้าน้ำทะเล ช่วยเสริมเรื่องความรัก มีเสน่ห์กับคนรอบข้าง และมีคนคอยช่วยเหลือ
    • วันอังคาร เหมาะกับหลังคาสีฟ้าอ่อน และสีเทา ช่วยให้คนในบ้านมีชีวิตที่สงบสุข ร่มเย็น ไม่ทะเลาะกัน
    • วันพุธ เหมาะกับหลังคาสีเขียวอ่อน สีดำ และสีเทา ช่วยให้คนในบ้านมีความสงบสุข มีชีวิตชีวา และมีความคิดสร้างสรรค์
    • วันพฤหัสบดี เหมาะกับหลังคาสีเขียว สีน้ำตาล สีเทา และสีโอ๊ค ช่วยให้คนในบ้านมีความสุข สบาย ร่มเย็น และปลอดภัย
    • วันศุกร์ เหมาะกับหลังคาสีเขียว สีส้ม และสีควันบุหรี่ ช่วยให้ครอบครัวอบอุ่น สามัคคี ปลอดภัย และเข้มแข็ง
    • วันเสาร์ ใช้ได้กับทุกสี แต่ควรเป็นสีโทนอ่อน ช่วยให้มีชีวิตที่เป็นมงคล มีความสุข เงินทองไหลเข้าบ้าน

     

     

     

    1. เสา ทุกต้นที่อยู่ในบ้าน ควรมีลักษณะกลม เพราะฮวงจุ้ยจะดีกว่าเสาเหลี่ยม ช่วยให้พลังชีวิตไหลผ่านได้ง่าย

     

     

     

     

    4. คาน ที่อยู่ภายในบ้านจะมีผลต่อผู้ที่อยู่อาศัยภายในบ้าน ในสมัยโบราณมีความเชื่อว่า

    • คานที่มีขนาดใหญ่มากๆ จะทำให้รุสึกกดดัน
    • คานที่อยู่เหนือตียงนอน จะทำให้เจ้าของห้องรู้สึกปวดศีรษะ
    • คานที่อยู่เหนือช่องท้องของผู้นอน จะทำให้รู้สึกปวดท้อง
    • คานที่อยู่เหนือข้อเท้า ทำให้มีปัญหาเรื่องการเคลื่อนไหว
    • คานที่อยู่เหนือเตาไฟ หรือโต๊ะกินข้าว จะถูกขัดลาภ หรือสูญเสียเงิน

     

     

     

     

    1. เพดาน ควรมีความสูงที่ได้สัดส่วนที่พอเหมาะ ห้องที่เพดานต่ำเกินไป จะทำให้อึดอัด มีผลต่ออารมณ์ และความคิด

     

     การสร้างบ้านที่ตรงตามหลักฮวงจุ้ยนั้น เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้สมาชิกทุกคนครอบครัวได้รับแต่สิ่งดีๆ มีความสุข อบอุ่น ร่ำรวย ร่มเย็น และปลอดภัย ค่ะ

     

    ขอบคุณภาพประกอบจาก Pinterest

  • ไม้ระแนงคือ ลักษณะของแผงระแนงไม้ที่เป็นทั้งแนวนอน

    หรือว่าแนวตรง  มีลักษณะเป็นไม้ที่เป็นแผ่นยาวๆ

    ....................................................................

    มีหลายหลายวัสดุเช่น

    ....................................................................

    ....................................................................

    ....................................................................

    ....................................................................

     

    ที่นำมาเรียงไว้บนโครงคร่าวอาจจะเว้นช่องว่างหรือไม่เว้นก็ได้

    ....................................................................

    ....................................................................

    ไม้เหล่านี้ทำหน้าที่ เป็นที่บังแดด หรือบังตาในบ้าน

    หรืออาจจะใช้เป็นพื้น ผนัง รั้วหรือ ระเบียงเหมาะกับบ้าน

    ที่ไม่ต้องการความอึดอัดจนเกินไป

     

    ....................................................................

    ....................................................................

    ....................................................................

    ไม้ระแนงถือว่าเป็นทางเลือกในการตกแต่งบ้านได้อีกประเภทหนึ่ง

    ซึ่งมีหลากหลายวัสดุ ให้เลือก หากจะเลือกนำไปใช้ก็เลือกให้เหมาะกับบ้านนะคะ

    ....................................................................

  • "ห้องนอน"

    ถือว่าเป็น ห้องที่สำคัญที่สุดสำหรับบ้าน เพราะการนอน เป็น1ใน3ของชีวิตมนุษย์

    การจัดห้องนอนให้น่าอยู่ก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นเดียวกัน

    วันนี้เรามีเทคนิคเล็กๆมาแนะนำ 9 สิ่งที่ไม่ควรมีไว้ในห้องนอนมีอะไรบ้าง

    ไปติดตามกันได้เลยค่ะ