วิธีกำจัดหนู
By vLIVING PRO28 กุมภาพันธ์ 2561 17:15:29

             หนูและเป็นสัตว์ที่น่ารำคาญสำหรับภายในบ้านหากเราไม่อยากฆ่าให้รู้สึกบาปวันนี้เรามีเทคนิคดีๆมาฝากกัน

 

 

1.น้ำมันก๊าด/น้ำมันสน

              กลิ่นของน้ำมันก๊าดสามารถไล่หนูได้ วิธีการแค่เทน้ำมันก๊าดใส่ถ้วยเล็กๆวางไว้ตามจุดที่คาดว่าเป็นที่อยู่หนูหรือจะวางไว้แหล่งอาหารของหนูก็ได้

 

 

 

2.ลูกเหม็น

กลิ่นของลูกเหม็นจะไม่รุนแรงเท่าน้ำมันก๊าด แต่หนูไม่ชอบกลิ่นสักเท่าไหร่

3.เปิดไฟให้สว่าง

หนูเป็นสัตว์ที่ชอบความมืดแสงไฟทำให้หนูแสบตาไม่กล้าออกมาแสดงตัวเท่าไหร่นัก

 

4.ประทัด

                       เสียงของประทัดทำให้หนูตกใจแตกกระเจิงลองใช้ประทัดมาจุดใกล้ๆรังหนูเพื่อให้มันอพยพออกไป ไม่ควรโยนใส่ตัวหนูเกินไป

 

 

5.กรงดักหนู

              ซื้อกรงดักหนูแล้วนำเหยื่ออาหารมาใส่เข้าไปเมื่อหนูวิ่งเข้าไปในกรง กรงจะปิดลง หากหนูมาติดกับแล้วควรเอาไปปล่อยไกลๆจากแหล่งที่อยู่อาศัยเพื่อไม่ให้กลับเข้ามาอีก

 

6.ต้นยี่โถ

นำกิ่งยี่โถไปวางในบริเวณที่หนูชุกชุมเพราะกลิ่นของต้นยี่โถมีกลิ่นแรงทำให้หนูทนไม่ไหว

 

7.เลี้ยงแมว

แมวเป็นสัตว์ที่จมูกไวมาก หากเราเลี้ยงไว้บ้านก็จะไม่มีหนูอีกต่อไปเพราะแค่หนูได้กลิ่นแมวก็จะไม่สามารถอยู่ได้แล้ว

 

8.ปิดทางเข้า

               ลองสำรวจบ้านดูว่ามีจุดไหนที่หนูสามารถเข้ามาได้ เช่น รอยแยกฝ้าเพดาน ประตู หน้าต่างห้องครัว หรือท่อน้ำ จัดการปิดรอยรั่วให้หมดเพื่อไม่ให้หนูเข้ามาได้

 

 

9.กำจัดแหล่งอาหาร

                   ไม่ควรทิ้งเศษอาหารวางไว้ในบ้านเช่นอ่างล้างจาน หากเราปล่อยไว้จะทำให้หนูเข้ามาเอาเศษอาหารทำให้เกิดพาหะ นำโรคหลายๆอย่างได้

 

 

 

          สิ่งสำคัญที่สุดก่อนจะกำจัดหนูอันดับแรกเลย เราควรรักษาความสะอาดของบ้านเพื่อไม่ให้หนูเข้ามากวนใจ มาทำข้าวของภายในบ้านเสียหายได้

 

vLIVING PRO
สนใจติดต่อโฆษณาเว็บไซต์กับ vLIVING PRO โทร.02-101-9493 #16, 082-359-3382
บทความอื่นที่น่าสนใจ
  • หลอดไฟมีรูปร่างที่สวยงามในตัวของมันเองแตกต่างกัน น่าเสียดายที่เรามักจะทิ้งไปเมื่อหมดสภาพ ใช้งานไม่ได้ เรามาหาวิธีเปลี่ยนหลอดไฟเก่าที่หมดไฟแล้ว ให้กลับมาสวยงาม มีชีวิตชีวากันเถอะค่ะ มาดูไอเดียที่จะทำให้หลอดไฟเก่าๆ เหล่านี้ กลายเป็นของใช้เด็ดๆ ที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้อย่างสร้างสรรค์กันค่ะ

     

    1. ตู้ปลาจากหลอดไฟเก่า

    สำหรับเพื่อนๆที่สนใจอยากจะลองทำ ขอแนะนำให้ใช้หลอดไฟที่มีขนาดใหญ่พอสมควร น้องปลาจะได้ไม่อึกอัด อยู่ได้อย่างสบาย มีความสุข และควรเลือกปลาที่มีขนาดเล็ก ทน หรือปลาชนิดที่สามารถอยู่ในที่แคบๆได้ อย่างเช่น ปลากัด ไม่เช่นนั้นอาจจะเป็นการทรมานปลาได้ค่ะ

      

     

    2. ตระเกียงแต่งบ้านสุดโรแมนติก

    หลอดไฟเก่าก็สามารถนำมาเป็นเชิงเทียน หรือตระเกียงได้นะ สามารถทนความร้อนได้เป็นอย่างดี และทำให้หลอดไฟเก่ากลับมามีชีวิตได้อีกครั้ง เพียงแค่เจาะรู แล้วร้อยไส้เทียนลงไปในหลอดไฟ จากนั้นเติมน้ำมันพืช หรือน้ำมันตะเกียงลงไป แค่นี้หลอดไฟเก่าที่หมดไฟ ก็กลายเป็นตระเกียงที่ให้แสงสว่าง สวยงาม เพิ่มความโรแมนติกให้กับบ้าน หรือมุมโปรดของคุณได้อย่างดีเยี่ยม

      

     

    3. สวนจิ๋วในหลอดไฟเก่า

    หากใครที่มีความชื่นชอบสวนขวด ฟังทางนี้ค่ะ เราสามารถนำต้นไม้จิ๋วมาปลูกในหลอดไฟเก่าได้ด้วย ซึ่งนับว่าเป็นของตกแต่งบ้านที่เก๋ไก๋ น่ารัก เหมาะสำหรับนำไปวางตามมุมต่างๆ ของบ้านได้เลย

      

     

    4. แจกันดอกไม้แขวน

    สามารถนำหลอดไฟเก่ามาใช้เป็นแจกันสำหรับใส่ดอกไม้ หรืออาจตกแต่งสีสรรให้สวยงามเพิ่มเติมตามใจชอบก็ได้ แล้วนำไปแขวนตกแต่งตามมุมหน้าต่าง บริเวณสวนหย่อม หรือแขวนตามต้นไม้ เพิ่มความน่ารัก สดใสให้กับบ้าน

       

     

    5. แจกันใส่ดอกไม้ตั้งโต๊ะเก๋ๆ

    นำหลอดไฟเก่าที่ที่หมดไฟ มาแปลงโฉมให้เป็นแจกันดอกไม้สุดน่ารัก วางประดับตกแต่งไว้ตามจุดต่างๆของบ้าน ไม่ว่าจะเป็นห้องรับแขก ห้องครัว หรือแม้กระทั่งห้องน้ำ ช่วยเพิ่มความสดใส สดชื่นได้ดี และนำดอกไม้ที่มีสีสันสดใส หรือดอกไม้สุดโปรดมาใส่ในแจกันหลอดไฟใบสวยของเราได้เลย 

      

       

     

    6. แจกันหลอดไฟใช้ปลูกพลูด่างแบบชิคๆ

    ปกติแล้วเราจะปลูกต้นพลูด่างในแจกันหรือกระถางปลูกต้นไม้ทั่วไป คราวนี้ลองเปลี่ยนมาปลูกในหลอดไฟเก่าดูบ้างสิคะ แล้วจะเห็นว่าพลูด่างในหลอดไฟเก่าก็สวยงาม เก๋ไก๋ แปลกตา ไม่แพ้กันเลยทีเดียว 

       

     

     

    7. สวนหลอดไฟแบบแขวน

    นอกจากจะใช้หลอดไฟเก่านำมาเป็นสวนจิ๋วแบบตั้งโชว์แล้ว เรายังสามารถนำมาทำเป็นสวนแบบแขวนได้อีกด้วย แล้วนำไปใช้ตกแต่งตามมุมโปรดของบ้านได้ตามต้องการ เช่น หน้าต่าง สวนหย่อม หรือต้นไม้ เพิ่มความน่าสนใจ สดชื่น สบายตาให้กับบ้านได้เป็นอย่างดี

      

      

     

    8. แจกันดอกไม้ติดผนัง

    แจกันสำหรับใส่ดอกไม้ ต้นไม้ที่ทำจากหลอดไฟเก่า แต่เพิ่มความเก๋ไก๋ด้วยการติดที่ผนัง กลายเป็นของแต่งบ้านที่ดูสวยงาม สดชื่น สำหรับผู้ที่พบเห็น หรือเดินผ่านไปมา อีกทั้งยังเป็นการใช้ของที่ไร้ประโยชน์ให้กลับมามีคุณค่ามากขึ้นด้วย 

      

      

    9. ใช้ทำของแต่งบ้านสวยๆ

    เป็นของแขวน ของตกแต่ง ประดับประดา ช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับบ้าน รวมทั้งอาจทำเป็นของตกแต่งตามเทศกาล หรือในโอกาสต่างๆได้อย่างดี แถมยังไม่เหมือนใครอีกด้วย และเป็นการนำของเหลือใช้มาทำประโยชน์ ไม่ต้องทิ้งให้เป็นขยะไร้ค่า

      

      

     

    ไอเดีย DIY หลอดไฟเก่าเหล่านี้ เราสามารถทำเองได้ง่ายๆ  มีความสวยงาม ประหยัด และน่าสนใจ ดังนั้นต่อไปหากหลอดไฟที่บ้านเสีย ใช้งานไม่ได้แล้ว ก็อย่าทิ้งนะคะ นำกลับมาทำให้เป็นของตกแต่งบ้านสุดชิค และมีประโยชน์กันดีกว่า

  • เทศกาลปีใหม่ใกล้มาถึงแล้ว หลายคนคงกำลังหาของขวัญให้กับคนพิเศษ หรือญาติผู้ใหญ่อยู่ใช่มั้ยค่ะ และเมื่อได้ของขวัญมาแล้ว สิ่งสำคัญอีกอย่างคือการห่อของขวัญ เพื่อแสดงถึงความตั้งใจ และการห่อของอย่างพิถีพิถัน ช่วยสร้างความประทับใจให้กับผู้รับ วันนี้เรามีวิธีห่อของขวัญให้ดูเก๋ และสวยได้ไม่ยากมาฝากกันค่ะ 

     

    1. ใช้กระดาษสีน้ำตาลห่อขวัญ เพิ่มภาพถ่ายสวยๆ แล้วตกแต่งด้วยการติดกิ่งไม้ใบไม้เข้าไป หรือว่าจะใช้ลิบบิ้นผูกเป็นโบว์ก็ได้ เพียงเท่านี้ก็ดูดี ดูสวย ดูอาร์ตแล้วอาจแปะกระดาษเพิ่มอีกใบสำหรับใส่ชื่อผู้รับหรือเขียนข้อความลงบนกระดาษก็ได้เหมือนกันค่ะ

     

    2. ใช้กระดาษสีดำห่อของขวัญ เมื่อเพิ่มลวดลายสนุกๆ เข้าไปก็ลดความอึมครึมของกระดาษสีดำได้แล้ว ไม่ต้องพึ่งเครื่องประดับเพิ่มเติมเลยค่ะ

     

     

    3. ใช้ถุงน้ำตาลห่อของขวัญ มัดปากถุงด้วยเชือก หรือโบว์สวยๆ แล้วหาของเก๋ๆ มาตกแต่งอีกนิดหน่อยแค่นี้ก็เสร็จแล้วค่ะ

     

    4. ตกแต่งลวดลายลงบนกระดาษน้ำตาลสำหรับห่อของขวัญ เพิ่มความเก๋ให้กระดาษด้วยการทำเป็นรูปหัวใจ หรือเพิ่มลายจุด ด้วยวิธีง่ายๆ เพื่อความสดใสได้เยอะเลยค่ะ

     

    5. ใช้กระดาษสี หรือผ้าต่างๆห่อขวดเพื่อเป็นของขวัญ การทำง่ายมากๆ เพียงแค่นำกระดาษสี หรือผ้าชนิดต่างๆ มาห่อขวดให้รอบทั้งขวด และตกแต่งบริเวณปากขวดอีกนิดหน่อย แค่นี้ก็ชิคแล้วค่ะ หรือลองเพิ่มลูกเล่นโดยการผูกโบว์ หรือคล้องดอกไม้ตรงคอขวดก็ได้นะคะ

     

     

    การห่อของขวัญแบบเก๋ๆ ที่เรานำมาฝากเหล่านี้ ไม่ได้มีประโยชน์แค่ช่วงเทศกาลปีใหม่เท่านั้นนะคะ แต่ยังสามารถใช้ได้กับหลายๆ โอกาสเลยค่ะ เช่น วันเกิด รับปริญญา หรือวันคริสต์มาสก็ใช้ได้ เพื่อนๆ ถูกใจไอเดียไหนก็ลองนำไปไปประยุกต์ใช้ดู ขึ้นอยู่กับความถนัด และความชอบของแต่ละคนเลยค่ะ ขอให้มีความสุขกับเทศกาลปีใหม่ที่จะมาถึงนะคะ

     

    ขอบคุณภาพประกอบจาก Pinterest

  •  

    บ้านไม้

              บ้านไม้ เป็นบ้านที่มีความสวยงาม คลาสสิก และอบอุ่น อากาศถ่ายเทได้ดี โปร่ง โล่ง สบาย มีความยืดหยุ่นสูง ง่ายต่อการซ่อมแซมแก้ไข รื้อถอน หรือตกแต่งเพิ่มเติม และสามารถนำไม้กลับมาใช้ใหม่ได้

              ควรเลือกใช้ไม้แต่ละประเภทให้เหมาะสมกับการใช้งาน เช่น ไม้บางประเภทอาจจะเหมาะสำหรับใช้ทำเฟอร์นิเจอร์ หรือบางประเภท เหมาะสำหรับทำโครงสร้างบ้าน วันนี้เราจะมาดูกันว่าไม้ที่ใช้ทำการก่อสร้างหลักๆมีอะไรบ้าง

     

    ไม้เต็ง

    เนื้อไม้มีผิวหยาบ เหมาะสำหรับงานที่โชว์ลวดลายของไม้ ส่วนใหญ่เหมาะสำหรับใช้กับงานภายนอก และงานโครงสร้างเป็นหลัก เช่น เสา และคาน

     

    ไม้แดง

    เนื้อไม้มีความแข็งแรง มีสีน้ำตาลอมแดง มีสีสันสวยงามนิยมใช้เป็นโครงสร้างที่ต้องการโชว์สีและลายไม้ เช่นวงกบ พื้น ไม่เหมาะที่จะนำมาทำเป็นเฟอร์นิเจอร์ เพราะเนื้อไม้มีความแข็งแรงมาก

     

     ไม้มะค่า

    มีความแข็งแรงมาก ส่วนใหญ่นิยมนำมาใช้ทำพื้นไม้ และบันไดบ้าน

     

    ไม้ตะแบก

    ลักษณะเนื้อไม้สีเทาจนถึงสีน้ำตาลอมเทา เสี้ยนตรง เนื้อละเอียด ส่วนมากนำมาทำไม้ปูพื้น ลายใกล้เคียงกับไม้สัก สีอ่อนสุดเมื่อเทียบกับไม้ชนิดอื่นๆ ตกแต่งได้ง่าย เหมาะกับการใช้ในงานภายนอกอาคารเช่น พื้นภายในบ้านและประตู ข้อเสียคือมักบิดตัวและโก่งงอง่ายหากโดนความร้อนหรือความชื้นนาน ๆ  

     

    ไม้ตะเคียน 

    ไม้เนื้อแข็งมีความทนทานสูง สีน้ำตาลอมส้ม ทนปลวกได้ดีนิยมใช้ทำวงกบประตูและพื้น

     

     

    ไม้สัก 

    มีลายไม้ที่สวยงาม และคงทน เหมาะสำหรับใช้เป็นส่วนประกอบของโครงสร้างบ้าน หรือส่วนต่างๆ ของบ้านที่ต้องการความสวยงาม เช่น บานประตู หน้าต่าง และเฟอร์นิเจอร์ เป็นต้น

     

     

    ไม้ยาง

    เหมาะสำหรับใช้ทำประตู วงกบ พื้น บันได และเฟอร์นิเจอร์

     

    ไม้จำปา

    ไม้เนื้ออ่อน คล้ายไม้สัก ราคาใกล้เคียงกับไม้เต็ง เหมาะกับการที่ใช้ภายใน ข้อเสียไม่ทนความชื้นและน้ำ จะทำให้ไม้ผุ  ไม้จะมีการบิดงอได้  ส่วนใหญ่นิยมใช้กับงานภายใน เช่น ประตู เป็นต้น

     

    ข้อควรระวังสำหรับบ้านไม้ คือ

    1. จำเป็นต้องใช้ช่างที่มีประสบการณ์ในการสร้างบ้านไม้ ต้องมีฝีมือที่ประณีต เรียบร้อย และสวยงาม
    2. ในปัจจุบันไม้หายากมากขึ้น จึงทำให้ไม้มีราคาแพง
    3. ปลวก และแมลงสามารถกันกินไม้ได้
    4. เสื่อมโทรม ผุ พังได้ตามอายุการใช้งาน และตามสภาพดินฟ้าอากาศ

     

     

     

     

  • หากจะกำหนดระยะตำแหน่ง เพื่อความแม่นยำ คงจะต้องใช้การตีเต๊า เป็นตัวช่วยแล้วตีเต๊าคืออะไรทำอะไรได้บ้าง มาดูกัน?
    .

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

  • การเลือกที่นอนให้เหมาะสมกับการพักผ่อนเป็นสิ่งสำคัญ เพราะ 1 ใน 3 ของแต่ละวันคือช่วงเวลาของการนอนหลับพักผ่อน ดังนั้นการมีที่นอนที่ดีนอกจากจะช่วยให้นอนหลับสบายตลอดทั้งคืนแล้ว ยังช่วยให้เรามีสุขภาพร่างกายที่ดีอีกด้วย แต่ถ้าหากไม่รู้ว่าควรเลือกที่นอนอย่างไร? วันนี้เรามีเทคนิคง่ายๆ มาฝากค่ะ

     

     

     

     

     

     

     

      

     

    ลองนำข้อควรรู้ในการเลือกซื้อที่นอนเหล่านี้ไปใช้กันดูนะคะ เพราะเราต้องใช้งานมันทุกวัน ดังนั้นการเลือกสิ่งที่ดี มีคุณภาพถือว่าเป็นการลงทุนที่ถูกต้อง แถมยังมีผลระยะในยาวต่อสุขภาพการนอนของเราอีกด้วยค่ะ