ทิศทางของสายลมและแสงแดด สายลมและแสงแดดมีความสำคัญยังไงนะ??
By vLIVING PRO26 เมษายน 2560 13:19:49

                การจัดพื้นที่บ้านให้เหมาะสมกับทิศทางของแดดและลม เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญมาก ที่เราไม่สามารถมองข้างได้ จึงควรทำความเข้าใจในเรื่องทิศทางแดดและลม ตามแต่ละฤดูกาลของบ้านเราอย่างถูกต้อง เพื่อช่วยทำให้ให้บ้านไม่ร้อน มืดทึบ หรือมีกลิ่นเหม็นอับ ในตอนกลางวัน

 

  

                แสงแดดในยามเช้า จะวิ่งจากทิศตะวันออก แล้วอ้อมโค้งไปทางทิศใต้ ก่อนจะตกลงในทิศตะวันตก ทำให้ทิศใต้ไปจนถึงทิศตะวันตก จะได้รับแสงแดดมากที่สุด คือ ตั้งแต่หลังเที่ยงวันไปจนถึงเวลา 5 โมงเย็น ดังนั้นจึงควรใช้ทิศทางนี้ในการทำกิจกรรมต่างๆที่ต้องการแสงแดด เช่น ใช้ตากผ้า หรือปลูกต้นไม้ที่ต้องการแสงแดด เป็นต้น

 

 

ทางทิศตะวันออกจะได้รับแสงอ่อนๆในตอนเช้า และแดดจะแรงจัดในช่วงเวลา 10 โมงเช้าถึงเที่ยงวัน

 

 

ทางทิศเหนือจะได้รับแสงแดดน้อยที่สุด เหมาะกับห้องที่ต้องการแสงน้อย เช่น ห้องนอน และห้องรับแขก เป็นต้น

 

 

ตำแหน่งของบ้านที่ลมสามารถวิ่งผ่านได้ดี คือ ต้องอยู่ในแนวผ่านของลมประจำฤดู ดังนี้

 

 

หน้าหนาว ลมจะพัดจากทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ไปยังทิศตะวันตกเฉียงใต้

 

 

 

หน้าร้อน และหน้าฝน ลมจะพัดจากทิศตะวันตกเฉียงใต้ ไปยังทิศตะวันออกเฉียงเหนือ

 

 

ขนาดของช่องลมเข้า – ออกที่ดีที่เหมาะสำหรับบ้าน คือ

 

ช่องลมเข้า ควรมีขนาดเล็กกว่า หรือเท่ากับช่องลมออก

 

 

 

ถ้าช่องลมเข้ามีขนาดใหญ่กว่า แล้วช่องลมออกมีขนาดเล็กกว่า หรือไม่มีช่องลมออกเลย

จะทำให้อากาศถ่ายเทได้ไม่สะดวก และควรหันด้านที่ยาวที่สุดของตัวบ้านเข้าหาทิศทางของลม เพื่อให้ลมธรรมชาติสามารถพัดเข้าในตัวบ้านได้ เป็นการช่วยระบายความร้อนออกจากตัวบ้านให้ได้มากที่สุด ทำให้ช่วยลดค่าใช้จ่ายาจากการเปิดใช้เครื่องปรับอากาศได้อีกด้วย

 

       เมื่อทราบถึงทิศทางของแสงแดด และสายลมแล้ว  ก็จะช่วยให้เราสามารถปรับเปลี่ยน แก้ไขบ้านได้อย่างถูกต้อง เพื่อให้บ้านมีอากาศถ่ายเทได้สะดวก มีทั้งลมเข้า ลมออก และบ้านของเราจะเป็นบ้านที่เย็นสบายตลอดทั้งปี                                                   

vLIVING PRO
สนใจติดต่อโฆษณาเว็บไซต์กับ vLIVING PRO โทร.02-101-9493 #16, 082-359-3382
บทความอื่นที่น่าสนใจ
  • หากช่วงนี้มีใครต้องการจะสร้างบ้านซักหลัง ขั้นตอนแรกๆของการก่อสร้างที่ไม่ควรมองข้ามคือ การเทลีน ดังนั้นเรามาดูขั้นตอนการเทลีนกัน ว่ามีอะไรบ้าง เพื่อที่จะได้เข้าใจถึงความสำคัญของขั้นตอนนี้ค่ะ

     

     

     

     

    การเทลีน หมายถึง  การเทคอนกรีตปรับผิวหน้าดิน สำหรับเตรียมพื้นที่ไว้รองรับการผูกเหล็ก เพื่อเทคอนกรีตงานโครงสร้างที่วางบนพื้นทราย หรือดิน

     

     

    ขั้นตอนการเทลีน มีดังนี้

    1. ขุดหลุม หรือปรับระดับดิน

    2. ผสมคอนกรีตหยาบในอัตราส่วน 1: 3 : 5 คือ ปูน 1 ส่วน ทราย 3 ส่วน และหิน 5 ส่วน

    3. เทคอนกรีตให้มีความหนาประมาณ 5 – 10 เซนติเมตรลงบนพื้นดิน

     


    ข้อดีของการเทลีน คือ

    1. ช่วยให้การผูกเหล็กตรงส่วนที่ติดกับพื้นดินทำได้ง่ายขึ้น เช่น งานฐานราก และคานคอดิน เป็นต้น และควรมีการหนุนลูกปูนด้วย เพื่อช่วยให้คอนกรีตไหลลงแบบได้มิดทั่วทั้งเหล็ก และช่วยเพิ่มความแข็งแรงของโครงสร้าง รวมทั้งเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดสนิม

    2. ช่วยลดความเสียหายที่อาจเกิดจากดิน เช่น ดินไหล ดินเป็นโพรง ดินโคลนสกปรก หรือน้ำจากใต้ดิซึ่งอาจส่งผลต่อความแข็งแรงของโครงสร้างได้

     

     

    รูปเปรียบเทียบตัวอย่างการเทลีน และไม่เทลีน

     

    เมื่อทราบถึงความสำคัญของ "การเทลีน" แล้ว ใครที่กำลังเริ่มสร้างบ้านอยู่ หรือกำลังคิดที่สร้าง อย่าลืมตรวจสอบกันด้วยนะคะว่าช่างได้ทำการเทลีนรึป่าว เพื่อประโยชน์ของเรา และบ้านที่รักของเราค่ะ

     

  •                       ประโยชน์ของผ้าม่านนอกจากความสวยงามแล้วนั้นยังช่วยป้องกันแสงแดดหรือป้องกันให้บุคคล อื่นมองเข้ามาภายในบ้านได้การเลือกผ้าม่านก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะผ้าม่านมีหลายประเภท หลายสไตล์ การเลือกผ้าม่านนั้นต้องให้เหมาะกับบ้านของผู้อยู่อาศัยด้วย วันนี้เรามีตัวอย่างของการเลือกผ้าม่านมาใช้ในแต่ละห้องมาฝากกัน

     

     

     

    แบบผ้าม่านสไตล์ต่างๆ

     

     

    1.ห้องนอน

    ควรเลือกผ้าม่านแบบที่มีความหนามากพอช่วยในการบังแดดที่ส่องมาตอนเช้าและความร้อนในตอนกลางวันช่วยบังสายตาจากภายนอก ควรเลือกผ้าม่านที่กันแสงได้ (Blackout)

     

    สี ต้องเลือกที่เข้ากับโทนสีของห้องและเฟอร์นิเจอร์ อาจจะเป็นสีโทนเย็นและสว่างเพื่อให้ความรู้สึกสบายตา ทำให้ห้องดูกว้างขึ้นด้วย

    ผ้าม่านที่เหมาะกับห้องนอน ม่านจีบ, ม่านพับ, ม่านตาไก่, ม่านลอน, มู่ลี่ไม้

     

      

    2.ห้องทำงาน

    ควรเลือกใช้ผ้าม่านที่ควบคุมแสงและบังสายตา จากภายนอกในระดับที่พอดี ควรใช้ผ้าพื้นสีเรียบๆหรือแบบที่มีลายเล็กๆ หรือใช้เป็นม่านปรับแสง หรือมู่ลี่เพราะสามารถปรับระดับการลอดของแสงได้ตามต้องการ เรียบง่าย สบายและโปร่ง

     

     

     

    3.ห้องรับแขก

    ควรเลือกใช้ผ้าม่านที่มีความสวยงาม แล้วแต่ความชอบให้ห้องดูโล่งกว้างให้ความผ่อนคลาย ช่วยกันกรองแสงได้ เพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับเจ้าของบ้าน

     

     

     

     

    4.ห้องครัว

    ควรเป็นม่านโปร่ง สามารถควบคุมแสง กันฝุ่นเวลาทำกับข้าวได้อย่างพอเหมาะ ช่วยระบายอากาศ เช่น ม่านปรับแสง หรือม่านม้วน เพราะสามารถปรับระดับแสงตามต้องการ และบังสายตาจากแสงแดดจ้าๆ ได้ ทำความสะอาดง่าย

     

     

     

    5.ห้องน้ำ

    สร้างความเป็นส่วนตัว สวยงามและสบายตา ผ้าม่านที่เหมาะสมคือ มู่ลี่ เพราะง่ายต้องการเช็ดและทำความสะอาด ทนน้ำ ดูแลง่าย ไม่ดูดน้ำ และไม่สร้างกลิ่นอับ

     

     

    6.ห้องทานอาหาร

    สร้างบรรยากาศและความสวยหรู ให้น่าทานอาหารมากขึ้น สามารถควบคุมแสงที่ผ่านเข้ามาได้ตามความต้องการ สามรถใช้ได้ทั้งมู่ลี่และผ้าม่าน แต่ถ้าเป็นผ้าควรเป็นแบบกรองแสง อย่าทึบจนเกินไป ไม่ควรใช้ผ้าที่มีน้ำหนักหรือหนามาก เพราะกลิ่นอาหารสามารถติดได้ง่าย

     

  • บันได ถือเป็นส่วนประกอบหนึ่งที่สำคัญของบ้าน ซึ่งบ้านเกือบทุกหลังจำเป็นต้องมีบันได โดยสิ่งที่ต้องคำนึงถึงคือขนาดของลูกตั้ง ลูกนอนที่เหมาะสม เพื่อให้สมาชิกทุกคนภายในบ้านใช้บันไดได้อย่างสบายเท้า ดังนั้นบันไดที่ดี จึงควรมีลักษณะ ดังนี้

     

     

     

     

    บันได ถือเป็นส่วนประกอบหนึ่งที่สำคัญของบ้าน ซึ่งบ้านเกือบทุกหลังจำเป็นต้องมีบันได โดยสิ่งที่ต้องคำนึงถึงคือขนาดของลูกตั้ง ลูกนอนที่เหมาะสม เพื่อให้สมาชิกทุกคนภายในบ้านใช้บันไดได้อย่างสบายเท้า ดังนั้นบันไดที่ดี จึงควรมีลักษณะ ดังนี้

     

    1. ลักษณะและขนาดของลูกตั้ง และลูกนอนที่ดี

    ลูกตั้ง คือ ระยะตั้งของบันไดแต่ละขั้น

    ลูกนอน คือ ระยะราบที่ใช้เดินเหยียบบันไดแต่ละขั้น

    สูตรการคำนวณลูกตั้งลูกนอนบันได คือ ลูกตั้ง + ลูกนอน = 45

    ตัวอย่างการคำนวณ ลูกตั้งลูกนอน  ลูกตั้ง + ลูกนอน = ผลรวม   เช่น     18+ 27 = 45  เป็นต้น

     

     

    ตัวอย่างบันไดที่เดินสบาย

    ดังนั้น บันไดที่เดินแล้วสบายเท้า ลูกตั้ง จะอยู่ที่ 17 – 18 เซนติเมตร ส่วนลูกนอน จะอยู่ที่ 27 – 28 เซนติเมตร 

    ตามกฎหมายระบุไว้ว่า ลูกตั้งต้องไม่เกิน 20 เซนติเมตร ส่วนลูกนอนต้องกว้างไม่น้อยกว่า 22 เซนติเมตร

    (เพราะถ้าความกว้างของลูกนอนน้อยเกินไป จะทำให้เหยียบได้ไม่ถนัดเท้า)

     

    1. ความสูงของช่วงบันได

     

    ในกรณีที่ความสูงระหว่างชั้นไม่เกิน 3 เมตร สามารถใช้บันได ช่วงเดียวได้เลย

    แต่ถ้าความสูงระหว่างชั้นเกิน 3 เมตร ควรแบ่งช่วงบันได

     

    1. ชานพัก

      

    มีไว้เพื่อแบ่งช่วงบันได และความยาวของชานพัก ต้องไม่น้อยกว่าความกว้างของบันได

    รวมถึง ระยะดิ่งจากขั้นบันได หรือชานพัก ถึงเพดานเหนือหัว ต้องสูงไม่น้อยกว่า 1.90 เมตร

     

     

    บันไดบ้านจะสวยมากน้อยแค่ไหนไม่สำคัญ สิ่งสำคัญคือ การมีบันไดที่ได้สัดส่วนตามมาตรฐาน ใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย เหมาะสม และปลอดภัยกับทุกคนในครอบครัวเป็นอย่างดี 

     

    ขอคุณภาพประกอบจาก Pinterest

  • สำหรับบทความนี้ ขอเอาใจคนรักสุนัข หรือมีสุนัขเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวกันซักหน่อยนะคะ โดยเรามีตัวอย่างบ้าน และที่นอนของน้องหมาตัวโปรด ซึ่งเป็นแบบที่ง่ายๆ มาฝากกันค่ะ  มีทั้งแบบ in door และ out door คิดว่าน่าจะทำตามได้ไม่ยากนัก มาดูกันค่ะว่ามีแบบไหนบ้าง 

       

     

       

     

      

    รูปแบบบ้านของน้องหมาที่ได้นำเสนอไปนั้น หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับเจ้าของสุนัข ที่ต้องการให้สุนัขตัวโปรดของคุณมีบ้าน หรือมีที่นอนส่วนตัว เพื่อความเป็นสัดส่วน และเป็นระเบียบเรียบร้อย และเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าสุนัขตัวโปรดของคุณต้องชอบใจมากอย่างแน่นอน

    ขอบคุณภาพประกอบจาก pinterest