มาใช้โคมไฟระย้าแต่งบ้านกันเถอะ
By vLIVING PRO21 กุมภาพันธ์ 2561 11:00:18

ปัจจุบันโคมไฟระย้ามีหลายแบบหลากสไตล์ การเลือกแบบให้เข้ากับสไตล์ของแต่ละห้อง จะช่วยให้ห้องดูดี สวยงาม มีสไตล์มากยิ่งขึ้น วันนี้เรามีไอเดียดีๆ ในการตกแต่งบ้านด้วยโคมไฟระย้า มาฝากคนรักบ้านกันค่ะ

 

 

โคมไฟระย้า

         โคมไฟระย้ามีเพื่อเน้นส่วนของบ้านที่ต้องการโชว์ ให้มีความสวยงามยิ่งขึ้น ความสูงของโคมระย้าจากพื้นในกรณีที่แขวนในห้องทั่วไป ควรสูงประมาณ 1.95 - 2.10 ม.

 

ห้องนั่งเล่น

              โคมไฟระย้าควรอยู่บริเวณโต๊ะกลางเพื่อเป็นจุดเด่นหนึ่งของห้องนั่งเล่นและควรเลือกให้เหมาะกับสไตล์ของห้องที่เราตกแต่ง

 

ห้องกินข้าว

     ติดเหนือโต๊ะกินข้าว 1 ชุด หรือ 2 ชุดก็ได้ ขึ้นอยู่กับความยาวไม่ควรแขวนโคมไฟสูงเหนือโต๊ะอาหารมากเกินไป 

 

ห้องนอน

                    ถ้าอยากมีห้องที่ดูแตกต่างควรใช้โคมไฟติดเพดาน เป็นโคมไฟระย้า สิ่งที่ดีที่สุดควรเลือกแสงที่อ่อนๆ เพราะ เป็นการพักผ่อน

 

ห้องน้ำ

       ควรติดความสูงให้พอดีและให้แสงสามารถส่องเห็นหน้าตอนส่องกระจกได้

 

ห้องทำงาน   

             โคมไฟระย้าสามารถแขวนได้กึ่งกลางห้องหรือเหนือโต๊ะทำงานก็ได้

 

สไตล์โคมไฟระย้า หรือแชนเดอร์เลียร์ที่นิยมนำมาตกแต่ง มีดังนี้

               เป็นรูปแบบดั่งเดิม เน้นความหรูหรา ตกแต่งด้วยเม็ดคริสตัลเมื่อกระทบกับแสงไฟ จะส่งประกายระยิบระยับ โครงหรือกิ่งก้านมักทำจากแก้ว หรือมีก้านทองเหลืองสลักลาย รวมถึงแชนเดอร์เลียร์แบบ Classic จะให้อารมณ์ที่เรียบ และเย็นกว่า

 

แชนเดอร์เลียร์แบบ Contemporary 

                 มีความร่วมสมัยมากขึ้น ผสมผสานระหว่างแบบคลาสสิคกับแบบปัจจุบัน รูปทรงก็ค่อนมาทางเรียบๆ ไม่มีลวดลายซับซ้อนเท่ากับแบบ classic โครงหรือกิ่งก้านจะเป็นโลหะ หรือวัสดุธรรมชาติ

 

 

แชนเดอร์เลียร์ Modern Classic

                มีพื้นฐานมาจากแชนเดอร์เลียร์กลุ่ม classic เพิ่มเติมความทันสมัยด้วยวัสดุใหม่ๆ เช่น โครงหรือกิ่งก้านเป็นเหล็ก เน้นความรู้สึกเรียบง่าย อบอุ่น แต่เริ่มมีสีสันมากขึ้น รูปทรงยังคงความอ่อนช้อยงดงามแบบ classic

 

 

แชนเดอร์เลียร์ Modern

                 เน้นความสวยงามแบบเรียบง่าย ไม่เหลือเค้าโครงแบบดั่งเดิม ตกแต่งด้วยดวงโคมน้อยชิ้นเน้นรูปทรงเรขาคณิต ไม่มีลวดลายห้อยระย้ามากนัก มีเส้นสายเรียบๆ ตรงๆ แต่อาจจะออกแนวย้อนยุคได้บ้าง เพื่อลดความแข็งกระด้าง และไม่ใช้เม็ดคริสตัล เหมาะกับบ้านสไตล์โมเดิร์นเป็นส่วนใหญ่

 

 

โคมไฟระย้า เป็นทางเลือกหนึ่งที่ได้รับความนิยมในการนำมาจัดตกแต่ง ยังไงก็ลองนำไอเดียร์ต่างๆ เหล่านี้ไปประยุกต์ใช้ให้เหมาะกับการแต่งบ้านของทุกคนดูนะคะ

vLIVING PRO
สนใจติดต่อโฆษณาเว็บไซต์กับ vLIVING PRO โทร.02-101-9493 #16, 082-359-3382
บทความอื่นที่น่าสนใจ
  • การเลือกใช้วัสดุสำหรับทำโครงตู้เฟอร์นิเจอร์ให้เหมาะสมกับบ้านของเรา และเพื่อการใช้งานจึงมีความสำคัญมาก ดังนั้นวันนี้เราจึงมีเทคนิคในการเลือกใช้วัสดุชนิดต่างๆ มาฝากทุกคนค่ะ

     

      

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    วัสดุที่ใช้ทำโครงตู้เฟอร์นิเจอร์แต่ละชนิดมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน ดังนั้นการเลือกใช้ควรเลือกให้เหมาะสม ถูกประเภทและถูกขนาดด้วยนะคะ

  •  

              การเลือกใช้แสงของหลอดไฟให้ตรงกับการใช้งานภายในบ้าน ถือเป็นสิ่งสำคัญ เพราะหลอดไฟมีหลายโทนสี และแสงของหลอดไฟแต่ละสีก็สร้างความรู้สึก อารมณ์ และบรรยากาศให้กับผู้อยู่อาศัยด้วย วันนี้เรามีเคล็ดลับการเลือกแสงไฟให้เหมาะกับแต่ละห้องมาฝากเพื่อนๆ กัน

     

     

    1.ห้องน้ำ  

                ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน แบบสว่างสดใส ใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำได้นาน ควรใช้หลอดไฟ Daylight White หรือชอบความรู้สึกผ่อนคลาย แบบร้านสปา ควรใช้ หลอดไฟ Warm White และ Cool White เป็นต้นและเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความอับชื้น มองเห็นได้ชัดเจน ไม่ลื่นล้ม ควรเลือกแสงไฟที่สว่างๆ หากเปิดให้แสงธรรมชาติถ่ายเทผ่านเข้ามาได้มากยิ่งดี และบริเวณอ่างล้างหน้า หรือโต๊ะหากชอบแบบสว่างสดใสสำหรับแต่งหน้า แต่งตัว ควรติดไฟรอบกระจกด้วยแสงอ่อนนุ่ม หรือไฟสีขาว เพราะจะให้แสงที่เป็นจริง 

     

     

     

     

    2.ห้องทำงาน หรือสำนักงาน

            ควรเป็นแสงธรรมชาติ หรือหลอดไฟแสงขาว สบายตา เงียบสงบ มีแสงสว่างเพียงพอ ผ่อนคลาย สามารถเห็นสิ่งต่างๆ ได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะเมื่อต้องเพ่งสายตากับคอมพิวเตอร์นานๆ  มีสมาธิ และช่วยกระตุ้นการทำงาน สำหรับคนที่ชอบทำงานตอนกลางคืน ควรมีโคมไฟตั้งโต๊ะ โดยใช้แสงไฟสีขาวนวล (Cool White) จะช่วยให้มองเห็นงานได้ชัดเจน และไม่รู้สึกปวดตาเวลาทำงาน

     

     

    3.ห้องทานอาหาร

                              ใช้หลอดไฟที่ให้แสงสว่างแบบอ่อนโยน สะอาดตา ช่วยสร้างบรรยากาศอบอุ่น เป็นกันเอง สบายๆ                                        เช่น หลอดไฟ Warm White และ Cool White ที่เป็นแสงโทนอุ่น ช่วยให้อาหารดูน่ารับประทานมากขึ้นด้วย

     

     

     

    4.ห้องนั่งเล่น และห้องรับแขก
      เป็นห้องสำหรับการผ่อนคลาย สบายตา สร้างบรรยากาศอบอุ่นให้กับครอบครัว และแขกผู้มาเยือน ดังนั้นควรใช้แสงสว่างที่ส่องมาจากธรรมชาติเป็นหลัก จะทำให้ห้องดูโปร่งสบาย และควรใช้แสงไฟสีส้ม หรือขาวโทนอุ่น Warm White และ Cool White ให้มีแสงสว่างมากพอ หรือสีที่เข้ากับโทนการตกแต่งห้อง

     

     

    5.ห้องนอน

                 ควรรู้สึกสงบ อบอุ่น ผ่อนคลาย พักผ่อนได้อย่างสบายใจ ใช้หลอดไฟแสง Warm White หรือ Cool White ให้แสงที่นวลตา ไม่สว่างมาก และแสงไม่อ่อนมากเกินไป เช่น แชนเดอเลียร์, ไฟซ่อนผนัง, ไฟฝังฝ้า จะช่วยให้เรารู้สึกมั่นใจ ปลอดภัย และนอนหลับได้อย่างสนิท ช่วยลดความวิตกกังวลระหว่างนอนหลับ แต่ถ้าชอบอ่านหนังสือในห้องนอนควรใช้แสงสว่างให้เพียงพอ หรือมีโคมไฟหัวนอนเสริม

     

     

    6.ห้องครัว

           ควรใช้แสงไฟสว่างตั้งแต่แสงปกติจนถึงสว่างเป็นพิเศษ เช่น หลอดไฟฟลูออเรสเซนต์ หรือหลอดไฟฮาโลเจน และควรมีช่องแสงหรือหน้าต่างให้มีอากาศถ่ายเท ไม่ควรเป็นจุดอับ ปลอดโปร่ง มีแสงจากธรรมชาติเข้ามาได้มากที่สุด ช่วยลดกลิ่นอับ และควรเพิ่มแสงสว่างใต้เครื่องดูดควัน ตู้เก็บของชั้นบน หรือบริเวณอื่นๆ เพื่อให้ทำงานสะดวกและเพิ่มความสวยงามได้ด้วย

     

     

    ลองนำเทคนิคที่เราแนะนำนี้ไปใช้ดูนะคะ ทั้งในเรื่องบรรยากาศภายในบ้านและการใช้งาน และมีสไตล์เข้ากับความชอบของเราที่สำคัญการเลือกหลอดไฟที่เหมาะสม และจำนวนที่พอดีจะช่วยให้เราประหยัดมากขึ้น เพราะไม่ต้องใช้หลอดไฟมากเกินไปความจำเป็นอีกด้วยค่ะ หวังว่าข้อมูลนี้จะทำให้เพื่อนๆ สามารถเลือกซื้อหลอดไฟได้อย่างถูกต้องและเหมาะสมในแต่ละห้องได้ค่ะ

  • ปัญหาที่มาพร้อมกับหน้าฝนคงจะหนีไม่พ้นเรื่องรั่วตามจุดต่างๆของบ้านผมมีวิธีแนะนำให้ตรวจสอบดูครับว่า 
    วิธีการตรวจเช็คเพื่อไม่ให้เกิดหลังคารั่วได้ มีวิธีการอย่างไร

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

  • การทาสีบ้านให้สวยงามเรียบเนียน จำเป็นต้องใช้ช่างมืออาชีพ หรือหากต้องการทาสีบ้านด้วยตัวเองก็ควรศึกษาขั้นตอน และวิธีการทาสีที่ถูกต้องเพื่อให้บ้านอันเป็นที่รักของเราดูดี สวยงามและน่าอยู่ วันนี้เสนอสาเหตุของ "การทาสีไม่ขึ้น" ว่าเกิดจากอะไร เผื่อใครที่พบเจอกับปัญหานี้ จะได้ทราบถึงสาเหตุ และรู้วิธีแก้ไขอย่างถูกต้อง

     

     

     สีทาไม่ขึ้น หมายถึง สียังบางอยู่ อาจเป็นเพราะทาสีบางเกินไป ทำให้มองเห็นรอบแปรงหรือลูกกลิ้ง สาเหตุเกิดจาก ผสมตัวทำละลายลงในสีมากเกินไป จึงทำให้สีบาง (ตัวทำละลาย คือ น้ำ ทินเนอร์ น้ำมันสน เป็นต้น)

     

     

    ดังนั้นจึงควรตรวจสอบส่วนผสมอีกครั้ง หรืออาจเป็นเพราะเนื้อสีมีน้อย เพราะใช้สีที่มีราคาถูก หรือใช้ลูกกลิ้งในการทาสี จึงทำให้สีบาง สีไม่ขึ้น หรือขึ้นช้า ทำให้ต้องทาซ้ำๆหลายๆรอบ จนกว่าสีจะเข้ม ทึบ หรือเด่นชัดขึ้น เรียกว่า “สีขึ้น” แต่ไม่ต้องกังวลใจไปนะครับ  เพราะการใช้ลูกกลิ้งทาสี  ถึงแม้ว่าจะต้องทาหลายๆรอบ แต่จะทำให้ได้สีที่เรียบเนียน สวยงาม มากกว่าการใช้แปรงทาสีนะครับ

     

    เมื่อทราบถึงความหมายของการทาสีไม่ขึ้น และสาเหตุ รวมทั้งวิธีการทาสีที่ถูกต้องแล้ว เชื่อว่าไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป สำหรับใครที่ต้องการลงมือทาสีบ้านด้วยตัวเอง แต่เรื่อง การทาสีไม่ขึ้น อาจเป็นแค่ส่วนหนึ่งในอีกหลายๆปัญหาของการทาสีบ้านที่อาจพบเจอได้นะครับ

     

    ขอบคุณภาพประกอบจาก Pinterest

  • ขึ้นชื่อว่าชักโครกก็รู้อยู่แล้วว่าไว้ขับถ่ายสิ่งปฎิกูลออกมา

    หายคนใช้ชักโครกเป็นสิ่งที่ทิ้งทุกอย่าง ทำให้เกิดการอุดตันของท่อ

    ซึ่งปัญหาตามมามากมาย ผมมีสิ่งของที่คนทิ้งลงในชักโครกมากที่สุดให้เพื่อนๆดูครับ

    1.อาหาร

               อาหารเป็นสิ่งที่คนทิ้งกันมากที่สุด เพราะบางคนอาจอยู่ในพื้นที่จำกัด ขี้เกียจไม่รู้จะไปทิ้งไหน เลยทิ้งชักโครกซะเลย อาหารที่กินมีทั้ง  ไขมัน ทั้งเศษต่างๆมากมาย เป็นของที่ทำให้เกิดท่ออุดตันทั้งนั้น

     

     

    2.เศษผม

    สาวๆที่ทำผมในห้องน้ำ ไม่แปลกที่จะมีเศษผมหลุดร่วงออกมา แต่ดันไปทิ้งที่ชักโครก เส้นผมเป็นสิ่งที่ไม่ย่อยสลายนะครับ เศษเส้นผมจะเป็นตัวการอย่างดีเลยในการพันเป็นก้อนๆ อุดเข้าไปในท่อต่างๆ 

     

    3.ผ้าอนามัย/แพมเพิส 

    ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ว่านี่เป็นอันดับต้นๆ ที่คนทิ้งลงไปในท่อเลย ซึ่งแพมเพิส และ ผ้าอนามัย ก็เป็นคุณสมบัติเดียวกันอยู่แล้วในการดูดซึมได้อย่างดีเยี่ยม นั่นล่ะครับ ตัวการในการทำท่ออุดตันข้อต้นๆเลย

     

     

     

    4.กระดาษเช็ดมือและสำลี

    กระดาษพวกนี้ต่างจากกระดาษทิชชู่ซึ่งไม่สามารถย่อยสลายไปได้ 

     

    5.ยาและสารเคมี

    สารเคมี มีพิษ และอันตรายต่อระบบนิเวศ ทางน้ำ หากบ้านไหนเป็นบ่อส้วมแบบเก่า คือให้ซึมลงดินไป สารเคมีเหล่านี้ อาจไปทำให้เกิดพิษได้ ยิ่งซึมไปตามแหล่งน้ำ ก้อาจจะเกิดผมเสียมากมายได้เลยทีเดียว

     

    6.ถุงยางอนามัย

    ทำมากจากยางพารา ซึ่งยากกับการที่จะย่อยสลายไปเอง

     

     7.ทรายแมว/ทรายหมา
    ทาสแมว/ทาสหมา ทั้งหลาย ทรายแมวนี่แหละตัวดีเลยที่จะทำให้อุดตัน ทิ้งลงในขยะนะครับ ทรายไม่ย่อยสลายนะ